sustainability

"อมตะ-บี.กริม-กรมอุทยานแห่งชาติฯ" กระตุ้นเอกชนอนุรักษ์ผืนป่าประเทศไทย

    "อมตะ-บี.กริม-กรมอุทยานแห่งชาติฯ" กระตุ้นเอกชนอนุรักษ์ผืนป่าประเทศไทย เดินหน้าเล่าเรื่องราวและสื่อสารให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช กระตุ้นให้ภาคเอกชนเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์ผืนป่าประเทศไทย 

รวมถึงมีบทบาทในการอนุรักษ์อย่างกระตือรือร้นและดำเนินกิจการที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการดำเนินการผ่านการเสวนา ผู้พิทักษ์ป่า เสือโคร่ง: ร่วมคืนสมดุลสู่ผืนป่าไทย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและสื่อสารให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า และเล็งเห็นถึงบทบาทหน้าที่และความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่าซึ่งทำหน้าที่รักษาความสมดุลทางธรรมชาติ 

"ด้วยวันที่ 29 กรกฎาคม และ 31 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์เสือโลก และวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลกจึงได้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ผืนป่าไทย"
 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2539 วัตถุประสงค์หลักอันดับแรกของมูลนิธิคือ เพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่า ตลอดจนส่งเสริมการปลูกป่าและรักษาธรรมชาติ จึงเกิดโครงการอุทยานพี่อุทยานน้องร่วมแบ่งปันทรัพยากรและองค์ความรู้ (SPARK) ซึ่งเป็นการร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองของประเทศไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล 

"อมตะ-บี.กริม-กรมอุทยานแห่งชาติฯ" กระตุ้นเอกชนอนุรักษ์ผืนป่าประเทศไทย

โดยวางเป้าหมายที่จะยกระดับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สู่อุทยานระดับโลก และเป็นต้นแบบการเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการแก่อุทยานแห่งชาติอื่น ๆ ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน โดยได้ดำเนินการอย่างเป็นกระบวนการต่อเนื่องเรื่อยมา ผ่านแผนการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอน  กระทั่งเห็นถึงพัฒนาการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในหลายด้าน

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง (Save the Tigers) เป็นโครงการที่ บี.กริม ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง โดยกว่า 10 ปีที่ผ่านมา บี.กริม มุ่งมั่นฟื้นฟูธรรมชาติของผืนป่าตะวันตกของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่งพร้อมกับปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งจากการรุกล้ำและลักลอบล่าสัตว์

ทั้งสนับสนุนระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol System) มีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย นำไปสู่การวางแผนการปฏิบัติงานลาดตระเวนได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ  

นอกจากนี้ บี.กริม ยังสนับสนุน การปรับปรุง ศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART Patrol Monitoring Center) และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานพิทักษ์ป่า อาทิ กล้องดักถ่ายภาพ (Camera Trap) ระบบเสารับส่งสัญญาณวิทยุ (Radio Tower and Portable 2-Way Radio) เชื่อมโยงระบบป้องกันรักษาป่า และยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูเสือโคร่งอย่างต่อเนื่อง

"อมตะ-บี.กริม-กรมอุทยานแห่งชาติฯ" กระตุ้นเอกชนอนุรักษ์ผืนป่าประเทศไทย

นอกจากนี้ บี.กริม ยังเห็นถึงความยากลำบากในการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าของเจ้าหน้าที่ ซึ่งโดยเฉลี่ยเจ้าหน้าที่หนึ่งคนต้องดูแลพื้นที่ป่าคนละหนึ่งหมื่นไร่ จึงได้ทำประกันสุขภาพให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรหลาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานด้วย อีกทั้งยังสนับสนุนไปถึงต้นธาร โดยการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ส.เสือวิทยา ที่โรงเรียนอนุบาลคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้นักเรียนและชุมชนในท้องถิ่นได้เรียนรู้เกี่ยวกับเสือและสัตว์ป่าในพื้นที่ของตนและประเทศไทย รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้เกิดการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อรักษาฝืนป่าและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ป่าไม้คือทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์น้อยใหญ่ เพราะป่าคือผู้รักษาความสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ และอากาศ ตลอดจนเป็นต้นกำเนิดของอาหาร ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค แต่ปัจจุบัน ป่าไม้ถูกทำลายลงไปมาก 

ขณะที่การลักลอบค้าสัตว์ป่าทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์เพื่อผลประโยชน์ทางพานิชย์ และพฤติกรรมการดำเนินชีวิต อันส่งผลต่อความสมดุลของระบบนิเวศอย่างเป็นวัฏจักร และปัญหาต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติน้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า สัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ หรือแม้กระทั่งโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก 

การอนุรักษ์ที่ยั่งยืนต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐเท่านั้น ภาคประชาชน และภาคเอกชนเองควรตระหนักและให้ความสำคัญในปกป้องและรักษาป่าไม้ของชาติ ซึ่งจะนำมาซึ่งความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ