บัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ภเปิดเผยในงาน “Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business” ภายใต้หัวข้อ “PTT Insight Together for Sustainable” ซึ่งจัดโดย กรุงเทพธุรกิจ ว่า ไทยออยล์ถือเป็นบริษัทในลำดับต้นของประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน และเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการประเมินให้เป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)
รวมถึงเป็นองค์กรสมาชิกของ UN Global Compact ข้อตกลงในการกำกับดูแลกิจการ เพื่อมุ่งสู่การเป็น บริษัทที่สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ เป้าหมายของไทยออยล์ คือ การทำธุรกิจพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่มีการผลิตและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีการตั้งเป้าว่าทางบริษัทจะมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และจะผลักดันให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2060
อย่างไรก็ดี ไทยออยล์มีกรอบการดำเนินการเพื่อความยั่งยืน คือ เริ่มจากลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ต้นทาง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้มากขึ้น ปรับใช้เทคโนโลยีการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage: CCS) การปลูกป่าเพื่อชดเชยและช่วยในการดูดซับก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการผลักดันธุรกิจดูแลสุขภาพตามเทรนด์ และพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น คาร์บอนสีเขียว พร้อมกับการคำนึงถึงคาร์บอนเครดิตอย่างเข้มข้น
อีกทั้งยังมีการผลักดันเพื่อเติบโตร่วมกับสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งในการสร้างโรงพยาบาลชุมชน สนับสนุนการจัดสร้างและงบประมาณแก่สถานพยาบาลในท้องถิ่น และผลักดันการใช้พลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ให้แพร่หลาย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริตในภาคเอกชน เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างโปร่งใสและเข้มแข็ง
ด้านความร่วมมือกับบริษัทในเครือของกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นั้น ไทยออยล์ได้เริ่มมีการศึกษาเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ โดยเฉพาะการใช้เอทานอลจากผลผลิตมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เพื่อใช้เป็นน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) หรือ BIO JET รวมถึงการพัฒนาระบบดักจับคาร์บอน CCS ที่ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทปตท. เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญ Net zero ต่อไป
สำหรับเป้าหมายแรกสุดในการผลักดันองค์กรสู่ความยั่งยืนของไทยออยล์คือ การดำเนินธุรกิจจะมีนโยบาย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ พร้อมกันนั้นก็จะมีการเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน มีการปรับโครงสร้างองค์กรผลักดันสู่ต่างประเทศให้มากขึ้น สร้างความร่วมมือทั้งกับในและนอกเครืออย่างกว้างขวาง พร้อมนำเทคโนโลยีมาปรับใช้งานเพื่อขับเคลื่อนไทยออยล์ไปสู่อนาคตต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง