บรูไน ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย ยกเว้น...

19 ก.ค. 2560 | 03:14 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2560 | 10:14 น.
tp7-3280-a เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ติดตามกลุ่มนักธุรกิจเอกชนไทยที่รวมตัวกันในนาม The Boss: Learn on the Road ไปประเทศ “เนการา บรูไน ดารุสซาลาม” ในฐานะวิทยากรประกอบการเดินทางตลอด 3 วัน 2 คืนครับ หลายๆ ท่านอาจจะงงว่า ไปทำไม ประเทศนี้มีอะไรด้วยเหรอ หรือมีแม้แต่คำถามว่า บรูไน ตั้งอยู่ตรงไหนของแผนที่หรืออยู่ที่ตะวันออก กลางรึเปล่า

ผมขอเพิ่มเติมรายละเอียดดังนี้ครับ กลุ่มของ The Boss เป็นเครือข่ายผู้ประกอบการที่แต่ละรายมีมูลค่ากิจการว่ากันตั้งแต่หลักร้อยล้าน ไปจนหลักหมื่นล้านที่รวมตัวกันเพื่อแสวงหาองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน พวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจไทยกลุ่มแรกที่ยินดีจ่ายเงินทุนของตัวเองเพื่อไปบรูไนด้วยราคาค่าทริปที่สามารถเดินทางไปเที่ยวยุโรปเป็นสัปดาห์ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการจะไปท่องเที่ยว หรือไม่ใช่เพียงเพราะต้องการไปพักผ่อนในโรงแรมที่เคยเป็นพระราชวังของสุลต่านมาก่อนเท่านั้น หากแต่สิ่งที่พวกเขาต้องการไปดูให้เห็นกับตาต่างหากว่า ประเทศที่มันไม่มีอะไรเลย มันไม่มีอะไรอย่างไร

บรูไนไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเทศขนาดเล็กที่มีพื้นที่เพียงแค่ 5,770 ตร.กม. ซึ่งเล็กกว่ากรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีพื้นที่ 7,761 ตร.กม.เท่านั้น หากแต่บรูไนตั้งอยู่บนเกาะที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกันถึง 3 ประเทศนั่นคือ บรูไน มาเลเซียตะวันออก และกาลิมันตัน ของอินโดนีเซีย รวมทั้งยังอยู่ในใจกลางของความร่วมมืออนุภูมิภาค BIMP-EAGA (Brunei-Indonesia-Malaysia-Philippines East ASEAN Growth Area) ซึ่งยังหมายรวมถึงฟิลิปปินส์เข้าไปด้วย และนั่นคืออีกครึ่งหนึ่งของอาเซียน แต่เป็นภูมิภาคอาเซียนในนํ้า (เช่นเดียวกับที่ไทยเป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียนบนบก) และบรูไนคือประเทศเดียวที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมที่สุดใน 4 ประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า ประปา คมนาคมขนส่งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ

บรูไนไม่ได้เป็นเพียงประเทศ ที่มีประชากรเพียง 4 แสนคนเศษๆ เท่านั้น หากแต่ 128,000 คน ใน 4 แสนคน กำลังมองหางานทำ 128,000 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งจบการศึกษาสูงกว่ามัธยมปลาย นั่นหมายความว่าอีกครึ่งหนึ่งก็พร้อมที่จะทำงานในโรงงานในลักษณะกึ่งฝีมือ และอีกครึ่งหนึ่งก็เป็นแรงงานฝีมือที่พร้อมสำหรับภาคบริการ

แน่นอนตลาดในประเทศของบรูไนมีขนาดเล็ก หากแต่บรูไนสามารถเข้าถึงตลาดขนาดกว่า 300 ล้านคนของ BIMP-EAGA และยังขยายต่อไปยังโลกมุสลิมในตะวันออกกลางได้ด้วย เนื่องจากบรูไนเป็นสมาชิกของ OIC หรือองค์การความร่วมมืออิสลาม และยังเป็นผู้นำในเรื่องการรับรองตราสัญลักษณ์ฮาลาลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมทั้งยังสามารถกระจายสินค้าเข้าไปยังคนมุสลิมในยุโรปผ่านกิจการของรัฐบาล Ghanim International ที่ไปร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่ในธุรกิจ Logistics ของฮ่องกงที่คนไทยรู้จักดีในนาม Kerry

บรูไนไม่ได้มีเพียงสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา นั่นคือมัสยิดที่มีโดมหลังคาเป็นทองคำที่รู้จักกันในนาม Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque เท่านั้น หากแต่ยังมีหมู่บ้านกลางนํ้า Kampong Ayer ที่เป็นหมู่บ้าน กลางนํ้าที่ใหญ่กว่าเมืองเวนิซ นครกลางนํ้าของอิตาลี ประชากรมากกว่า 35,000 คนอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ร่วมกับมัสยิด โรงเรียน สถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ และหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ที่นั่น ที่เดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปไหนตั้งแต่สมัยที่กัปตัน Ferdinand Magellan ล่องเรือมาพบในปี ค.ศ.1521

นอกจากนี้บรูไนยังมีอุทยานแห่งชาติ Temburong ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมากที่สุดในโลก Proboscis Monkey ลิงที่มีจมูกใหญ่จนมองคล้ายมีงวงก็เจอได้ที่นี่

ในทะเลของบรูไนไม่ได้มีแค่ก๊าซธรรมชาติสำรองมากเป็นอันดับ 10 ของโลก และส่งออกมากเป็นอันดับ 9 ของโลกเท่านั้น หากแต่ยังมีอาหารทะเลคุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็นปลาYellowfin Tuna ซึ่งสามารถให้เนื้อ Otoro ชั้นยอดในร้านอาหารญี่ปุ่น และกุ้ง Blue Shrimp ที่มีให้รับประทานเพียง 2 แห่งในโลกนั่นคือที่บรูไน และที่ New Caledonia (หมู่เกาะเล็กๆ อาณานิคมของฝรั่งเศสทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ตะวันออกของออสเตรเลีย)

บรูไนไม่ได้มีแค่รัฐสวัสดิการที่ประชาชนรักษาพยาบาลฟรี การศึกษาฟรีเท่านั้น หากแต่ยังเป็นประเทศที่ไม่มีการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่มีภาษีศุลกากรในการนำเข้าสินค้า ไม่มีภาษีการค้า ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อัตรา 18.5% เท่านั้น ซึ่งนับว่าตํ่าเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน

บรูไนคือประเทศที่ปกครองโดยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมี สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัลโบลเกียห์ เป็นประมุขของประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำกองทัพ เป็นรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีต่างประเทศและการค้า คำพูดของพระองค์คือกฎหมาย หลายๆ คนอาจจะมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่สำหรับภาคธุรกิจนี่คือระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก เพราะราชวงศ์โบลเกียห์ ดูแลประเทศนี้ต่อเนื่องกันมายาวนานเกินกว่า 600 ปีแล้ว

บรูไนคือประเทศที่เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อัตรา การขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงต่อเนื่องมากว่า 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ราคานํ้ามันในตลาดโลกปรับตัวลดลง นั่นเองทำให้รัฐบาลภายใต้การนำขององค์สุลต่านพยายามส่งเสริมการลงทุน จะมีหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนสักกี่ประเทศ ที่ไม่มี Package ส่งเสริมการลงทุนตายตัว หากแต่สามารถต่อรองได้

และยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่ส่งผลกระทบภายนอกทางบวกกับประเทศ เช่น เกิดการจ้างงาน เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ธุรกิจของท่านที่ไปลงทุนจะได้รับข้อเสนอพิเศษจากทางรัฐบาลบรูไน โดยเฉพาะท่านอาจจะมีผู้ถือหุ้นร่วมลงทุนเป็นรัฐบาลบรูไน หรือแม้แต่ตัวสุลต่านและครอบครัวเอง และอย่าลืมนะครับประเทศนี้เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไหนที่จะเข้มแข็งเท่านี้อีกแล้ว

และนั่นแหละครับคือ “ความไม่มีอะไรเลย” ของประเทศบรูไน ดินแดนที่ตอนนี้กลุ่ม The Boss ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจจากความไม่มีอะไรเลยแล้ว

การเดินทางครั้งนี้พวกเราได้รับความอนุเคราะห์การอำนวยความสะดวกอย่างยิ่งในการติดต่อประสานงานเรื่องต่างๆ จากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน โดยเฉพาะท่านเอกอัครราชทูต คุณพีรวิช สุวรรณประเทศ และเลขานุการเอก คุณวสุ ศรีวราธนบูลย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ท่านเอก อัครราชทูตยังฝากบอกด้วยว่า สถานทูตไทยยินดีต้อนรับคนไทยทุกท่านตลอดเวลา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560