การชำระเงินข้ามพรมแดนนั้นยังไม่พร้อมสำหรับโลกอนาคต สำหรับภูมิภาคที่มีพลวัตเช่นเอเชียแปซิฟิก เราต่างรับรู้ได้ว่า มาตรฐานการชำระเงินในระดับสากลนั้น มีการแยกออกเป็นส่วนๆ มีข้อจำกัดมากมาย แต่ละประเทศและเครือข่ายต่างๆ ทั่วโลกมักใช้มาตรฐานในการส่งข้อความที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีการจำกัดปริมาณข้อมูลที่สามารถส่งถึงกันได้ ทำให้เกิดประสบการณ์การชำระเงินที่ไม่น่าประทับใจ
ประเทศไทยมีประชากรราว 3 ล้านคนที่ส่งเงินกลับบ้านในแต่ละปี ใช้เวลาราวๆ 3 วันทำการในการส่งและรับเงิน บางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้นกว่าจะไปถึงผู้รับปลายทาง และจำนวนเงินที่ได้รับยังขึ้นกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการหักค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณธุรกรรมการโอนเงินราว 2 พันล้านรายการที่เกิดขึ้นในเอเชียแปซิฟิกในแต่ละปี ภูมิภาคนี้ จึงรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการกำหนดมาตรฐานและปรับตัวพร้อมเปิดรับการใช้โซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อช่วยปรับปรุงขั้นตอนในการรับ/ส่งเงินระหว่างประเทศ ทุกวันนี้การโอนเงินระหว่างประเทศสามารถทำได้ง่ายผ่านแอพพลิเคชันและแพลตฟอร์มหลากหลายที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
การระบาดของ COVID-19 เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผู้คนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนการใช้ธนบัตรหรือเงินสด และนั่นยิ่งทำให้การชำระเงินผ่านมาตรฐานสากลมีบทบาทสำคัญมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทั่วทุกหนแห่ง
ISO 20022 เป็นมาตรฐานข้อความที่ใช้กันเกือบทุกธนาคาร ผู้ให้บริการรับโอนเงินหรือชำระเงิน และเคลียริ่งเฮ้าส์ เปรียบ
เสมือนการกำหนดภาษาที่ใช้ในการสื่อสารสำหรับการรับ/ส่งข้อความธุรกรรมทางการเงิน (เช่นข้อมูลผู้ส่งเงินต้นทางข้อมูลผู้รับเงินปลายทาง เพื่อที่จะนำไปใช้ในการดำเนินธุรกรรม) ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีการแชร์กันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน
ดังนั้นมันจะช่วยก้าวข้ามข้อจำกัดในปัจจุบันเพราะสามารถรองรับการส่งข้อมูลอื่นไปพร้อมกับข้อความการชำระเงินได้จำนวนมาก ทำให้การเชื่อมโยงการชำระเงินกับระบบอื่นๆ ทั่วโลกเป็นไปอย่างราบรื่น (global intetoperability)ส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น
ความสำเร็จของไทยในการประยุกต์ใช้มาตรฐาน ISO20022 ในการชำระเงินช่วยผลักดันให้ประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียแปซิฟิกต่างหันมาสนใจที่จะเริ่มใช้มาตรฐานนี้เช่นเดียวกัน
อันที่จริงไทยอยู่ในระดับแถวหน้าของการนำมาตรฐาน ISO 20022 มาใช้ โดยเป็นประเทศแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ริเริ่มโครงการระบบการชำระเงินแห่งชาติ (National Payment System: NPS) ซึ่งเราได้พัฒนาระบบการชำระเงินนี้ตามมาตรฐาน ISO 20022 และเปิดใช้งานทั่วประเทศในปี 2558 นอกจากนั้นแล้วระบบ PromptPay ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการขึ้นในปี 2560 และเป็นเครือข่ายการชำระเงินภายในประเทศแบบเรียลไทม์ ก็ใช้มาตรฐาน ISO 20022 อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ธุรกรรมดิจิทัลและกระบวนการทางธุรกิจดิจิทัลเกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ หลังได้เข้าร่วมร่างมาตรฐาน ISO 20022 ริปเปิลได้เป็นตัวแทนในการกำหนดมาตรฐานการชำระเงินระดับโลก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมดิจิทัลและการดำเนินธุรกิจดิจิทัลให้ลํ้าสมัยยิ่งขึ้น เราทำงานร่วมกับพันธมิตรในการจัดหาระบบการโอนเงินที่สมบูรณ์แบบมีค่าธรรมเนียมตํ่าและโอนได้ไวขึ้นให้กับลูกค้าทั่วโลกของเรา
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ซึ่งเราเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมายาวนานและทำงานร่วมกันเพื่อพลิกโฉมรูปแบบการโอนเงินข้ามประเทศของไทย โดย SCB และ Ripple มีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนากระบวนการโอนเงินให้รวดเร็วขึ้น คุ้มค่าและสามารถโอนได้สะดวกเพื่อมอบให้กับคนไทยทุกคน
คอลัมน์มันนี่ดีไอวาย
โดย : เคลวิน ลี
Head of Southeast Asia, Ripple
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,583 วันที่ 14 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563