รู้จัก 8 กุนซือบิ๊กตู่

24 ต.ค. 2563 | 01:30 น.

ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมอย่างต่อเนื่องของกลุ่มเยาวชน นิสิต นักศึกษา นักเรียน ภายใต้ชื่อกลุ่มคณะราษฎร 2563 ผู้เขียนเห็นข่าวชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ การแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีที่มีการดึงบุคคลภายนอกจากภาคเอกชนเข้ามา เพื่อทําหน้าที่ในการให้คําปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำนวน 8 ราย 

รู้จัก 8 กุนซือบิ๊กตู่

ที่บอกว่าน่าสนใจ เพราะท่ามกลางสถานการณ์ทางการมืองที่ร้อนแรง การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด ซึ่งทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหนักหนาสาหัส การดึงผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในภาวะเช่นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่คุกรุ่น

 

ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นเมื่อดูประวัติ และประสบการณ์ของผู้ที่เข้ามาเป็นคณะที่ปรึกษาให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ละคนล้วนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมือ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน

 

คนแรกคือ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ อดีตเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับบทประธานคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

  ทศพร ศิริสัมพันธ์

นายทศพร จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Public Administration, Pi Alpha Alpha (National Honor Society for Public Affairs and Administration), Northern Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาเอก สาขาการวิเคราะห์นโยบาย การบริหารรัฐกิจและการเมืองเปรียบเทียบ Northern Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ก่อนเข้ามาเป็น เลขาสภาพัฒน์ นายทศพร เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) 

ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย

คนที่ 2 นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย นักการธนาคาร มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านบริหารการเงิน การตลาดและนักวาณิชธนกิจ ปัจจุบันอายุ 65 ปี ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ปตท. และประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย จบการศึกษาปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท บริหารธุรกิจ (การเงินการธนาคาร) North Texas State University สหรัฐอเมริกา 

 

คนที่ 3 นายประสัณห์ เชื้อพาณิช นักบัญชีแถวหน้าของประเทศ ปัจจุบันถูกดึงตัวไปเป็นกรรมการบริษัทต่างๆ หลายที่ 

ประสัณห์ เชื้อพาณิช

นายประสัณห์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านบัญชี (เกียรตินิยมอันดับ 2) ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการสอบบัญชีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบัญชี จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 

 

นอกจากนี้ยังสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Executive Management Program จาก Ivey School of Business, University of Western Ontario ประเทศแคนาดา และหลักสูตร Leading Professional Services Firms จาก Harvard Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา 

คนที่ 4 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) นักการธนาคารที่มีประสบการณ์มากมาย นอกจากนั้นยังมีประสบการณ์การเป็นกรรมการอิสระของรัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนอีกหลายที่

ปิติ ตัณฑเกษม

นายปิติ จบปริญญาตรี วิศวกรรม ศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท สาขาการเงินและอสังหาริมทรัพย์ Kenan-Flagler Business School, University of North Carolina at Chapel Hill, U.S.A., ปริญญาเอก สาขาวิชาการบริหารธุรกิจ(หลักสูตรนานาชาติ) หลักสูตรร่วมระหว่าง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ University of Nebraska, U.S.A.

 

 

คนที่ 5 นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาล ประยุทธ์ 1 และอดีตซีอีโอ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 

ไพรินทร์ ชูโชติถาวร

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, ปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทและเอกจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจบการศึกษาเป็นอาจารย์ในภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรม ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

คนที่ 6 นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งภายหลัง นายกานต์ ตระกูลฮุน หมดวาระในวันที่ 31 ธันวาคม  2558 เอสซีจี ก็มีการแต่งตั้ง นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส จากรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ มาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส

นายรุ่งโรจน์ จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ สาขาเหมืองแร่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท บริหารธุรกิจ Harvard Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ University of Texas (Arlington) ประเทศสหรัฐอเมริกา

วิรไท สันติประภพ

คนที่ 7 นายวิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่พล.อ.ประยุทธ์ ทาบทามให้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากอุตตม สาวนายน ลาออก แต่เขาก็ตอบปฏิเสธที่จะเข้ามารับตำแหน่ง

 

นายวิรไท จบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 จากนั้นได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดลไปศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดสหรัฐอเมริกา เมื่ออายุ 24 ปี

 

คนที่ 8 นายสมคิด จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมและกรรมการ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)  และที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมือออก แบบระบบดิจิทัล อัพเกรดและพัฒนา แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมทั้งปรับปรุงแพลตฟอร์มและแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีต่างๆ

สมคิด จิรานันตรัตน์

ผลงานสร้างชื่อมาจากธนาคารกสิกรไทยในการเข้าไปปรับปรุงแอพพลิเคชัน K PLUS หรือ K ในตำแหน่งประธาน บริษัท Kasikorn Business Technology Group (KBTG) ก่อนที่จะลาออกมาร่วมงานกับ บริษัท Accenture ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ที่ให้บริการครอบคลุม ทั้งด้านกลยุทธ์และแผนธุรกิจ รวมถึงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ

สำหรับประวัติการศึกษา จบปริญญาตรี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปริญญาโท  Master of Management, สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ และ Master of Computer Science, Oregon State University, USA

 

ถึงตรงนี้คงจะเห็นภาพกันแล้วว่า คณะที่ปรึกษานายรัฐมนตรีทั้ง 8 คนนั้นมีผลงานไม่ธรรมดา จากนี้คงต้องจับตาดูว่าคณะที่ปรึกษานายกฯชุดนี้จะมีข้อเสนอแนะการขับเคลื่อนประเทศข้างหน้าอย่างไร 

 

คอลัมน์ถอดสูตรคุย  โดย  บรรทัดเหล็ก

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,621 หน้า 10 วันที่ 25 - 28 ตุลาคม 2563