หุ้นกลุ่มเครื่องสำอางอ่วม! ราคาดิ่งต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี หลังเจอปัญหาจากขายฝืด นักท่องเที่ยวจีนหด ... DDD ผลงานไตรมาส 3/2561 ขาดทุนสุทธิ 6.7 แสนบาท ราคาหุ้นร่วงหนักสุด 65% ... BEAUTY ทรง ๆ ตัว งวด 9 เดือน ยังโต 5%
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่มเครื่องสำอาง ได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 ส่งผลให้ราคาหุ้น 4 บริษัท ปรับลดลง จากต้นปีถึงวันที่ 12 พ.ย. 2561 ราคาหุ้นของ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) (DDD) ราคาลดลงมากสุดถึง 65% จากราคาต้นปี 90 บาท เหลือ 31.25 บาท ราคาหุ้นของ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ลดลง 54% จาก 20.70 บาท เหลือ 9.60 บาท
ราคาหุ้นของ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS) ลดลงมา 47% จาก 27.75 บาท มาอยู่ที่ 14.80 บาท และราคาหุ้นของ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) (KAMART) ลดลง 44% จาก 7.40 บาท ลงมาเหลือ 4.14 บาท
DDD ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 ขาดทุนสุทธิ 674,000 บาท จากไตรมาส 3/2560 มีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 253 ล้านบาท มาจากการขายที่ต่างประเทศลดลง 52.42% เป็นผลจากการชะลอการส่งสินค้าหลังจากได้รับใบอนุญาตจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศจีน ทำให้บริษัทต้องปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวให้เป็นไปตามใบอนุญาต และปรับโครงสร้างการขายให้เหมาะสม รวมถึงผลกระทบของข่าวเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้จำหน่ายสินค้าลดลง
ผลประกอบการ BEAUTY ในไตรมาส 3/2561 มีกำไรสุทธิ 329 ล้านบาท ลดลง 5.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 348 ล้านบาท งวด 9 เดือน ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 868 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 821 ล้านบาท
[caption id="attachment_347165" align="aligncenter" width="407"]
มงคล พ่วงเภตรา[/caption]
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า ผลประกอบการหุ้นกลุ่มเครื่องสำอางลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเครื่องสำอางเป็นสินค้าแฟชั่น ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งจะมีผลต่อยอดขายไม่เติบโตเท่าที่ควร รวมถึงความคาดหวังของนักลงทุน ที่ผ่านมาที่นักวิเคราะห์หลายแห่งคาดการณ์กลุ่มเครื่องสำอางจะมีการเติบโต แต่ปัจจุบันกลับไม่โตและราคาหุ้นยังปรับลดลง
[caption id="attachment_347162" align="aligncenter" width="383"]
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ[/caption]
"บริษัทที่ทำการค้ากับประเทศจีน ด้วยการนำสินค้าไปวางขายในจีน ยังมีปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศจีน (อย.) รวมถึงเศรษฐกิจจีนปัจจุบันชะลอตัวลง ทำให้ยอดขายในจีนไม่เติบโตเหมือนที่ผ่านมา ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลนั้น มองว่าไม่ได้ช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาได้เหมือนเดิม เพราะหลังจากที่มีการประกาศมาตรการแล้ว ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวไม่ได้มีการตอบรับ หรือปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด"
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)ฯ กล่าวว่า หลายบริษัทได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป ทำให้กำลังซื้อสินค้าไม่ขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับลดลง เพราะนักลงทุนมองไม่เห็นถึงภาพการเติบโตปีนี้
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,418 วันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2561