กำลังเป็นที่จับตามองการเคลื่อนไหวของผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ อย่างบริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด หรือ ไทยซัมมิท กรุ๊ปส์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย ที่ปัจจุบัน "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ"นั่งประธาน ไทยซัมมิท กรุ๊ปส์ ว่าสถานะจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านฐานการผลิตรถยนต์ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถอีวีมากขึ้น นั่นแปลว่าสถิติการใช้ชิ้นส่วนต่อรถ1คันที่มีนับหมื่นชิ้น จะเหลือเพียงไม่กี่พันชิ้น อีกทั้งปี 2562 ต่อเนื่องปี2563 ยังต้องจับตาอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งระบบ ที่อาจรับแรงเหวี่ยงจากหลายเหตุการณ์ไปพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ผลกระทบจากการส่งออกที่เป็นผลพวงจากปัญหาเงินบาทแข็งค่า, วิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ลากยาวข้ามปี ล้วนเป็นตัวแปลสำคัญเขย่าฐานการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยและทั่วโลกอย่างถ้วนหน้า
แรงกระเพื่อมเริ่มปรากฏ!!! เมื่อบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ หรือจีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันเดินแผนลดคนในสายการผลิตซึ่งเป็นพนักงานชั่วคราวจำนวนหนึ่งที่จังหวัดระยองก่อนหน้านี้ เป็นการปรับตัวตามผลประกอบการที่ลดลงทั้งที่ขายภายในประเทศไทยและที่ผลิตส่งออก ทำให้กระทบถึงบริษัท ไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด (Plant 3 แหลมฉบัง) บริษัทในเครือไทยซัมมิท กรุ๊ป ที่ Plant 3 จะผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นเหล็กป้อนให้กับค่ายจีเอ็มโดยตรง ต้องออกมาประกาศเป็นการภายในเรื่องกำหนดหยุดการทำงานในวันที่ 26 ตุลาคมถึงวันที่25 ธันวาคม2562 โดยให้เหตุผลว่าในช่วงดังกล่าวลูกค้าของบริษัทหยุดการผลิตชั่วคราวและมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาในปริมาณลดลง ทางบริษัทพิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องหยุดการทำงานชั่วคราวบางส่วนในช่วงเวลาดังกล่าวลง
ว่ากันว่า บริษัท ไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด มีทั้งหมด 5 Plant นั้น มียอดขายรวมต่อปีราว 10,000-12,000 ล้านบาท เฉพาะPlant 3 แหลมฉบังที่ผลิตเฉพาะชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นเหล็ก หยุดไปชั่วคราวก็น่าจะสะเทือนยอดขายเฉพาะส่วนนี้ไปด้วย เพราะแว่วว่าน่าจะมีมูลค่าราว 3,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อการผลิตแตะเบรกลง 2 เดือนก็คาดว่าน่าจะไปไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้
ย้อนกลับไปดูรายได้รวมธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ของกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทฯ มีรายได้ 80,000 ล้านบาทต่อปี ขยายอาณาจักรธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ออกนอกประเทศ ไปยังจีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, อเมริกา มาเลเซีย และเวียดนาม จนมีบริษัทในเครือแตกแขนงแล้วมากกว่า 40 บริษัท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เมื่อ 2 ปีก่อนกลุ่มไทยซัมมิทประกาศชัดเจนว่าภายใน ปลายปี 2564 เฉพาะธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์จะมีรายได้ทะลุ 100,000 ล้านบาท! นับว่ายังเป็นเป้าที่ท้าทายในภาวะที่แวดล้อมไปด้วยปัจจัยเสี่ยงแบบนี้ ทั้งแรงสั่นสะเทือนที่มาเป็นลูกโซ่จากสถานะกลุ่มลูกค้าค่ายรถยนต์เอง ที่มีปัญหาเรื่องยอดขายยอดส่งออกออกเกิดอาการแตะเบรกกันเป็นแถว อีกทั้งสถานะการลงทุนนอกบ้านที่ยังต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจากวิกฤตค่ายรถเขย่าสถานะการผลิตของบิ๊ก “ไทยซัมมิท” ย่อมมีผลต่อเป้าแสนล. บอกได้เลยว่ายังเหนื่อย!!
คอลัมน์ : Let Me Think
โดย : TATA007
รง.ไทยซัมมิท แหลมฉบังฯ ของ “จึงรุ่งเรืองกิจ”หยุดชั่วคราว!!!
สังเวยยอดขายร่วง GMโละคนงานไทย-นำเข้าเก๋งอินโดฯ
เดี้ยงเป็นแถว!!! ตรวจชีพจรภาคผลิต