อุตรดิตถ์..จังหวัดนี้แม้จะเป็นเมืองเหมือนเงียบๆ แต่กลับมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีป่าเขาลำเนาไพรงดงามอุดมสมบูรณ์ แถมเป็นเมืองเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยค้นพบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของชุมชนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เดิมสะกดว่า อุตรดิฐ เป็นจังหวัดหนึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ได้ชื่อว่าเมืองท่าแห่งทิศเหนือมีตำนานอันลึกลับของเมืองลับแล ดินแดนแห่งลางสาดหวานหอม เป็นเมืองถิ่นเกิดของ “พระยาพิชัยดาบหัก” เจ้าเมืองพิชัยผู้เก่งกาจในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีของดีของเด็ดอย่างทุเรียนหลง-หลินลับแล ราคากิโลกรัมละหลายร้อยบาททีเดียว ทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ขอพาไปท่องเที่ยวบางที่แล้วกัน
เริ่มจาก อำเภอลับแล เราไปกันที่ซุ้มประตูเมืองและพิพิธภัณฑ์เมืองลับแลก่อน เมืองลับแลเมืองนี้ห้ามพูดโกหก ตามตำนานนิทานพื้นบ้านเล่าต่อกันมาว่าเป็นเมืองของคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต โกหกคำเดียวไม่ได้ เมื่อลูกเขยเห็นลูกร้องไห้ กล่อมยังไงก็ไม่หยุดร้องเลย หลุดปากหลอกลูกว่า แม่มาแล้วเท่านั้น ก็ต้องถูกออกจากเมือง ...
เมื่อเข้าถึงอำเภอลับแล จะพบซุ้มประตูเมือง ถือว่า เป็นแลนด์มาร์ก ที่ทุกคนต้องแวะ ข้างซุ้มประตู มีประติมากรรมแม่ม่าย สัญลักษณ์ของเมืองลับแล เป็นรูปปั้นหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้าสร้อย ข้างๆ มีสามีนั่งคอตกในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้นเตรียมเดินทางจากเมืองลับแล ติดกับซุ้มประตูเมือง คือ พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล สถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติของเมือง วิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองลับแล โดยจำลองผ่านเรือนในแต่ละหลัง ที่รอชนรุ่นหลังมาเยือน
ปีใหม่แล้วเริ่มไหว้พระขอพรกันที่ พระบรมธาตุทุ่งยั้ง อยู่ในตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล ห่างจากตัวจังหวัด 5 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญประจำเมืองทุ่งยั้ง ซึ่งเมืองทุ่งยั้งในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยติดต่อกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ เจดีย์พระบรมธาตุ ชาวบ้านนิยมเรียกว่า พระบรมธาตุทุ่งยั้ง เป็นเจดีย์เก่าแก่แบบลังกาทรงกลมฐานสีทองอร่ามตา
จากนั้นมาต่อที่ วัดดอนสัก ที่ได้ชื่อมาจากการสร้างวิหาร ด้วยไม้สักเพียงต้นเดียวที่ขึ้นอยู่บนเนินสูงตามธรรมชาติ สิ่งที่ น่าสนใจ คือ บานประตูวิหารวัดดอนสัก หรือ บานประตูวัดดอนสัก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ตัวเสาประตูเป็นลายกนกใบเทศสลับลายกนกก้ามปู บานประตูเป็นไม้แกะสลักทั้งบาน รูปลายกนกก้านขด มีรูปสัตว์หิมพานต์แทรกอยู่ในลวดลายกนกต่างๆ มีความอ่อนช้อยสวยงาม
ชมโบราณสถานแล้วก็ออกไปชมอุทยานแห่งชาติลำนํ้าน่าน เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ในอำเภอนํ้าปาด อำเภอท่าปลา อำเภอบ้านโคกจ.อุตรดิตถ์ และอำเภอ เมือง จังหวัดแพร่ สภาพป่านานาชนิดที่มีความสมบูรณ์ ทั้งเป็นแหล่งต้นนํ้าลำธารของอ่างเก็บนํ้าเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งใช้เป็นจุดแบ่งเขตจังหวัดแพร่กับจังหวัดอุตรดิตถ์ มีจุดชมวิวทิวทัศน์ทะเลสาบสุริยันต์จันทรา ที่มีลักษณะเป็นอ่างเก็บนํ้าที่รายล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนเหมือนภาพวาด ยามเย็นเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงามมากแห่งหนึ่ง
มาประลองกำลังร่างกันที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติป่านํ้าปาดท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอนํ้าปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก มาแล้วต้องปีนไปชมนํ้าตกภูสอยดาว มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อ ไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีนํ้าไหลตลอดทั้งปี
ตามด้วยการเดินขึ้นไปชม ลานสนสามใบภูสอยดาวและทุ่งดอกไม้ในป่าสน ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ กว่า 1,000 ไร่ เป็นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับนํ้าทะเลประมาณ 1,633 เมตร สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงตํ่าสลับกันไป เป็นป่าสนสามใบ เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่นเช่น ดอกหงอนนาค, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ส่วนในช่วงฤดูหนาวนี้จะมีดอกกระดุมเงิน, กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์และต้นเมเปิล ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมาก
การเดินทางไปเที่ยวลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องเดินทางเท้าจากนํ้าตกภูสอยดาวขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ ดังนี้ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดชันที่สุด
เมืองไทยมีที่เที่ยวสวยงามมากมายและแต่ละที่แต่ละจังหวัด ก็มีประวัติศาสตร์เป็นความรู้ติดตัวด้วย ไปไหนวางแผนกันแต่เนิ่นๆ แล้วจะไม่ผิดหวัง...