นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทั้ง การระบาดของไวรัสโคโรนา วิกฤตภัยแล้ง ค่าเงินบาทที่ผันผวนและการขัดแย้งทางการค้า ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของภาคธุรกิจและครัวเรือนเป็นอย่างมาก สมาคมธนาคารไทยและสมาชิกจึงออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่ใช้บริการสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเพื่อธุรกิจระหว่างประเทศ และสินเชื่อเช่าซื้อ รวมถึงช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งใช้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งขณะนี้ธนาคารทยอยติดต่อลูกค้าเพื่อเสนอความช่วยเหลือ และมีลูกค้าแจ้งรับความช่วยหลือเข้ามาแล้วพอสมควร แต่ยังไม่สามารถระบุถึงขอบเขตวงเงินสินเชื่อในการช่วยเหลือไปแล้วได้ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบและประเมินผล
สำหรับมาตรการที่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบคือ 1. มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมคือ โรงแรม โลจิสติกส์ภัตตาคารและร้านอาหาร ธุรกิจทัวร์ ธุรกิจบันเทิง ร้านขายของที่ระลึก และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จะผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุด 1 ปี และสนับสนุนให้มีรายได้จากการร่วมมือกับภาครัฐ และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ด้วยการจัดรายการ ส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว การจัดรายการโปรโมชันบัตรเครดิต เช่น การลดราคา กระตุ้นการท่องเที่ยวในวันธรรมดา
2. มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก และผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบ ผ่านมาตรการ ขยายระยะเวลาในการชำระตั๋ว Packing Credit หรือตั๋ว P/N สำหรับผู้นำเข้า-ส่งออก โดยขยายระยะเวลาตั๋ว สูงสุดครั้งละ 3เดือน 3.มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างและพนักงานของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 1 ปี ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ให้ผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุด 1 ปี และพิจารณาลดดอกเบี้ยเป็นรายกรณี หรือแปลงหนี้เดิมทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นสินเชื่อใหม่ และพิจารณาให้ผ่อนเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 1 ปีเป็นรายกรณี และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ
ขณะเดียวกัน สมาคมธนาคารไทยจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนอื่น ๆในการช่วยเหลือเพื่อให้การดำเนินงานต่าง ๆของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนเดินต่อไปได้ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ มาตรการต่าง ๆ จะมีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายในประเทศ เนื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมมีเป็นจำนวนมาก ความช่วยเหลือดังกล่าวจึง อาจต้องมีการประเมินเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบธุรกิจต่อเนื่องและซัพพลายเชน รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ภาคธุรกิจจะฟื้นฟูและกลับมาสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว สามารถติดต่อรับความช่วยเหลือกับธนาคารที่ท่านใช้บริการได้