เมื่อวันที่ 14 มี.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบให้ปรับมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่ผ่านกระบวนการคัดกรองแล้วไม่พบไข้ ให้กลับไปเฝ้าดูอาการ 14 วัน ยังบ้านพักตามภูมิลำเนา โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์ ไปตรวจเยี่ยมเป็นประจำทุกวันจนครบ 14 วัน
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ฉบับที่ 3 และ 4 พ.ศ.2563 มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้(14 มี.ค.) ซึ่งนอกจากจะมีผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังหมายรวมถึงข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ รวมถึงข้าราชการสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ว่าจะเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ฯลฯ เพื่อร่วมบูรณาการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสทุกพื้นที่
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ เจ้าพนักงานจะมีอำนาจออกหนังสือเรียกบุคคลใดๆ มาให้ถ้อยคำ แจ้งข้อเท็จจริง เพื่อเป็นประโยชน์ในการเฝ้าระวัง โดยมีอำนาจในการเข้าไปยังอาคารบ้านเรือนเพื่อประโยชน์ในการตรวจตรวจสอบด้วย นอกจากนี้ ในส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ อำนวยความสะดวกแก่บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับไปเฝ้าระวังอาการยังภูมิลำเนา พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันตัวเองแก่คนในชุมชนด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือสำหรับผู้ไปกลับเฝ้าสังเกตอาการไม่ให้สร้างพฤติกรรมเสี่ยงต่อสาธารณะ โดยขอความร่วมมือให้กักตัวอยู่ในที่พักอาศัยเพื่อสังเกตอาการเท่านั้น