นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัท ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน18 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท หรือ คิดเป็นจำนวนไม่เกิน 3% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท โดยเป็นการเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563-7 ตุลาคม 2563
สำหรับการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินและศักยภาพในการสร้าง ผลตอบแทนในอนาคตของบริษัทฯ และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานอย่างมาก จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีกำไรสะสมเท่ากับ 104.27 ล้านบาท และมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นคงเหลือจำนวน 556.68 ล้านบาท นอกจากนี้ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนข้างหน้า บริษัทฯประมาณการว่าจะมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ดังนั้นจึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในอีก 6 เดือนข้างหน้านับแต่วันที่ซื้อหุ้นคืนและมีเงินสดคงเหลือเพียงพอที่จะนำมาใช้ในการซื้อหุ้นคืนตามโครงการ
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากําไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)
สำหรับผลกระทบจากกรณีที่ กทม.ประกาศปิด 26 สถานเสี่ยงการแพร่ระบบไวรัสโควิด-19 ประธานกรรมการบริหาร TACC ยืนยันว่า ยอดขายของ TACC ส่วนใหญ่อยู่ใน เซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งได้รับประโยชน์จากการที่ กทม.อนุญาตให้เปิดร้านสะดวกซื้อได้ตามปกติ โดยคาดว่าแนวโน้มงบไตรมาส 1/63 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง