”คมนาคม” ถก ทล. ลุย 5 เมกะโปรเจ็กต์

20 เม.ย. 2563 | 12:30 น.
อัปเดตล่าสุด :22 เม.ย. 2563 | 02:25 น.

”คมนาคม” หารือ ทล.เร่งเดินหน้า 5 เมกะโปรเจ็กต์หลังความคืบหน้าล่าช้าหลายโครงการ เหตุติดปัญหาบังคับใช้ข้อกฎหมาย-เช่าพื้นที่

 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามโครงการขนาดใหญ่ที่ล่าช้าของกระทรวงคมนาคม ว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการ 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างถนนพระราม ทางหลวงหมายเลข 35 ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย  2.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย  3.โครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต เฟส2   4.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) และ 5.โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้มีหลายโครงการที่เกิดความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการบังคับใช้ข้อกฎหมาย การเช่าพื้นที่ และการควบคุมงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ในปัจจุบันภาพรวมโครงการทางของ ทล
. มีโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการ 500-10,000 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวน 308 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแล้วเสร็จ จำนวน 81 โครงการ  และโครงการยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน  222 โครงการ  ซึ่งเป็นข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563

สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนพระราม ทางหลวงหมายเลข 35 ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ในปัจจุบันสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่วางไว้ โดยมีความคืบหน้า 69.31%  ทั้งนี้ได้สั่งการเร่งคืนผิวทางจราจร  ช่วงตอนที่ 1- 2 แล้วเสร็จ ภายในเดือน พ.ค. 2563 โดยจะต้องดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้ง 3 ตอน ภายในเดือน ก.ค. 2563 ขณะเดียวกันเร่งดำเนินการทางกลับรถ (เกือกม้า) แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.2564    หลังจากนั้นภายในเดือน พ.ค. 2563 เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการทางด่วนพระราม 3 ซึ่งเป็นทางด่วนยกระดับ โดยสั่งการให้มีการบูรณาการร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาติดขัดด้านจราจร  ขณะนี้ได้มีการวางแผนและออกแบบการก่อสร้างเพื่อไม่ให้รบกวนผิวทางจราจรระหว่างที่ประชาชนใช้บริการ

 

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย นั้น ซึ่งมีทั้งหมด 8 สัญญา  ได้สั่งการให้ทล. เร่งรัดการก่อสร้างต่อเนื่อง หลังพบว่าเกิดปัญหาในการก่อสร้าง ตอนที่ 1 ช่วง อ.ดอยสะเก็ด-อ.ป่าเมี่ยง ได้ก่อสร้างเป็น 4 ช่องจราจรเสร็จแล้ว  คาดว่าทุกช่วงจะดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถเปิดบริการได้ในเดือน ก.พ. 2564

นายศักดิ์สยาม  กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต เฟส 2 จะช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีการก่อสร้างทั้งหมด  3 ตอนนั้น  โดยปัจจุบันสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนที่กำหนด คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในต้นเดือน ธ.ค. 2564  

 

นอกจากนี้ได้เร่งรัดโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 คาดว่าจะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ก.พ. 2566 หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางจากกรุงเทพไปภาคตะวันตกสะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ราว 1 ชั่วโมง ขณะที่โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา จำนวน 40 สัญญา นั้น  ได้สั่งการให้เร่งรัดเปิดให้บริการก่อนกำหนด โดยปัจจุบันเหลือเพียงการติดตั้งระบบความปลอดภัยและค่าผ่านทาง  ทั้งนี้ความคืบหน้าโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จกว่า 80%  มั่นใจจะเปิดให้บริการได้ในปี 2565