นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเสนอวงเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 วงเงินรวม 10,000 ล้านบาทให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่21 เม.ย.นี้เ แบ่งเป็นก้อนแรก 6,500 ล้านบาท ช่วยเหลือปัจจัยการผลิตสำหรับชาวไร่อ้อยทุกรายที่จดทะเบียนเป็นชาวไร่อ้อยและทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก่อนเปิดหีบ ซึ่งมีจำนวนรวมประมาณเกือบ 200,000 ราย
ส่วนอีกก้อนจำนวน 3,500 ล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลทุกตันอ้อย โดยช่วยเหลือเป็นเงินในอัตราตันละ 93 บาท ทำให้โดยรวมแล้วเกษตรกรชาวไร่อ้อยในฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 ที่รับเงินค่าอ้อยขั้นต้นไปแล้ว 750 บาทต่อตันอ้อย มีเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้น
นายวิฤทธิ์ กล่าวว่า การหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2562/2563 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2563 รวมระยะเวลาเปิดหีบ 116 วัน มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ 37,183,474 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 49.65 จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 74,893,175 ตัน
สำหรับฤดูการผลิตปี 2563/2564 ตั้งเป้าปริมาณอ้อยไฟไหม้จะต้องลดลงเหลือร้อยละ20 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 และข้อร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอ้อยไฟไหม้ โดยใช้แนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ และยังตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
"ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้กำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 ในอัตรา 750 บาทต่อตันอ้อย ระดับความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. หรือเท่ากับ 97.91% ของประมาณการราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศ 766.01 บาทต่อตันอ้อย และกำหนดอัตราขึ้นลงของราคาอ้อยเท่ากับ 45 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. ส่วนผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 เท่ากับ 321.43 บาทต่อตันอ้อย"