ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนพล วีราสา รองคณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า สถานการณ์วิกฤติจากโควิด-2019 ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งโลก โดยเฉพาะธุรกิจบริการจำนวนมากไม่ทันตั้งตัว ต้องสะดุดหรือปิดตัวลง ทำให้ออนไลน์กลายเป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แม้กระทั่งโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆก็ต้องปรับวิธีการเรียนการสอนมายังช่องทางออนไลน์แม้จะยังไม่เชี่ยวชาญมากนัก ขณะที่ผู้บริหารหรือผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมากต่างก็มีคำถามในใจว่า จะเดินไปทิศทางใดในการดำเนินธุรกิจ จะทำกันแบบเดิมหรือเปลี่ยนไปเป็นออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งแน่นอนว่าบางรายอาจจะเกิดความลังเลใจในการเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านดังกล่าว
“ปัจจุบันแค่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จ้างคน IT เก่งๆ เข้ามาทำงานคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 หรือหลายๆเหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ไฟไหม้ป่า ความวุ่นวายทางการเมือง หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ออกมาสู่ตลาดทุกวัน ล้วนแต่เป็นปัจจัยภายนอกที่มากระทบต่อธุรกิจ คงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะเห็นธุรกิจดีๆ อีกมากมายต้องล้มหายตายจากไปเพราะปรับตัวไม่ทัน”
ดังนั้น ทางรอดของ “ธุรกิจ” จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันภายในตนเอง เหมือนกับร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้เองหลังจากต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ร่างกายพร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคที่จะเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว โดยโลกอนาคตจะเป็นโลกของ “SPEED” ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เร็ว ผู้บริหารและพนักงานในองค์กรต้องมีทัศนคติที่กล้าล้ม กล้าเรียนรู้อย่างรวดเร็ว (Growth Mindset) และเสริมด้วยความรู้ด้านดิจิทัล ปรับวิธีการทำงานภายในองค์กร และรู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเป็นเครื่องทุ่นแรงในการทำธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงคงไม่ใช่ทำกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ต้องทำกันแบบยกเครื่องใหม่ทั้งระบบเลย
“ทุกวันนี้เราคงได้ยินการพูดถึงคำว่า Digital Transformation ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนึกถึงเทคโนโลยีดิจิทัล พวก application, AI, machine learning, smart devices แล้วธุรกิจจำเป็นต้องเรียนการใช้เทคโนโลยีพวกนี้หมดเลยหรือไม่ ถ้าเราไม่ได้จบวิศวะหรือเป็นโปรแกรมเมอร์มาก่อนจะสู้ต่อในโลกดิจิทัลนี้อย่างไร แต่จากบทความของสำนักวิชาการดังๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น WEF, Harvard, MIT, Gartner พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เทคโนโลยีไม่ใช่คำตอบ บริษัทจะทุ่มเงินซื้อเทคโนโลยีเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าคนในองค์กรไม่หัดเรียนรู้ ก็เสียเงินเปล่า”
ขณะที่สถาบันการศึกษาก็จำเป็นที่จะต้องปรับหลักสูตรใหม่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับ “ธุรกิจ” ขึ้นมาจริงๆ ต้องทำให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้มองเห็นโอกาสใหม่ในการทำธุรกิจ การได้กลับมาเรียนใหม่ในช่วงเวลาที่ไม่นานจนเกินไปและอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ จึงเป็นคำตอบ
โดยในปีที่ผ่านมา CMMU จึงได้ก่อตั้ง NEO Academy พัฒนาหลักสูตรระยะสั้นสำหรับบุคคลทั่วไป พนักงานในองค์กร และผู้ประกอบการ ภายใต้แนวคิด “โลกใหม่ โอกาสใหม่ การศึกษาใหม่” ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลก และรวบรวมโอกาสทางธุรกิจ เช่น หลักสูตรการสร้างโอกาสทางธุรกิจในสังคมอายุยืน และล่าสุดที่กำลังเปิดรับสมัครในช่วงนี้คือ หลักสูตรการบริหารธุรกิจยุคดิจิทัล (Mini MBA - Digital Business Management) ที่ปรับมาเรียนแบบออนไลน์ เน้นการทำให้ง่ายและใช้งานได้จริง (Simplify & Apply) เพื่อช่วยให้คนที่กำลังกลัวกับ Digital Disruption หายจากอาการกลัวนี้และกล้าไปต่อ ให้ผู้เรียนรู้สึกมีไฟที่จะปรับตัวเมื่อเรียนจบหลักสูตรไป
“เมื่อวันแรงงานที่ผ่านมา World Economic Forum ได้ออกบทความที่ระบุว่า โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ “งานแห่งอนาคต” มาถึงเร็วกว่าที่คิด และคนกว่าครึ่งโลกมีความเสี่ยงจะตกงาน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่งานไม่เหมาะกับคน แต่ทำอย่างไรให้เราเป็นคนที่เหมาะกับงาน คนชอบพูดว่าโลกนี้อยู่ยาก แต่แค่เราเปิดโอกาสให้ตัวเองหามุมที่เหมาะกับเราบนโลกให้ได้ หน้าที่ของ NEO Academy คือ สร้างทางเลือกให้กับประชาชนมากที่สุด ดังนั้น Mini MBA ที่พัฒนาขึ้นมานี้จึงมีองค์ความรู้พื้นฐานที่ครบที่สุด ปูความรู้ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจปัจจุบันสู่ธุรกิจดิจิทัล มองเห็นองค์รวมของธุรกิจ ไม่ใช่กระโดดไปเรียน Digital Marketing เพียงอย่างเดียว”