ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงนโยบายของกระทรวงฯ ว่า “ขณะนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีออกนโยบายรวมไปถึงความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการช่วยเหลือและเยียวยากลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบไปด้วย การปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้คลอบคลุมทุกกลุ่ม จัดทำระบบคัดกรองที่ถูกต้องและแม่นยำ เพื่อช่วยจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2563) รวมไปถึงนโยบายการปฏิรูปภาคการเกษตรให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศโดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดทำยุทธศาสตร์ 'เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด' ในการจัดหาตลาดเพื่อจำหน่ายผลผลิตทั้งในและต่างประเทศเพื่อรองรับผลผลิตและสินค้าเกษตรและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน”
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภาคการเกษตรของไทยกำลังเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ เนื่องจากพืชผลทางการเกษตรรวมกว่า 1 ล้านตัน ไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศไทยได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และยังคงมีแนวโน้มที่จะหยุดชะงักไปจนถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ทางกระทรวงฯ จึงได้ร่วมกันพิจารณาเร่งหาแนวทางในการบริหารจัดการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรดังกล่าวผ่านนโยบาย ต่าง ๆ เพื่อเร่งเยียวยาและสนับสนุนผลผลิตของพี่น้องชาวเกษตรกรไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิทัลถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิตให้เกษตรกรยังคงมีรายได้เลี้ยงชีพ โดยหนึ่งในแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้ค้าผลไม้นั้นได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรในภาคเอกชน อย่าง แกร็บ ประเทศไทย ในการเพิ่มช่องทางการค้าขาย และจัดส่งผลไม้จากหลากหลายท้องถิ่น ผ่านบริการ GrabMart”
โครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิดตัวด้วยผลไม้ 5 ชนิด จาก 3 จังหวัด ได้แก่ มะม่วงดอกไม้สีทอง จากสหกรณ์การเกษตรบ้านร่องส้าน จังหวัดพะเยา ลิ้นจี่ฮงฮวยและลิ้นจี่จักรพรรดิ์ จากกลุ่มเกษตรทำสวนลิ้นจี่แม่สุก จังหวัดพะเยา มังคุดและทุเรียน จากสหกรณ์นิคมวังไทร จังหวัดระยอง และกล้วยหอมทอง จากสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี โดยเริ่มนำร่องวางจำหน่ายในเฟสแรก ณ 2 จุดหลักได้แก่ ตลาดอ.ต.ก. และบองมาร์เช่ มาร์เก็ตพาร์ค และมีแผนจะขยายการจำหน่ายไปยังแหล่งกระจายสินค้าหลักทั่วกรุงเทพฯ
ทางด้าน ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “แกร็บ ในฐานะผู้ประกอบการจากภาคเอกชน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเกษตรกรไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงมีความยินดีที่ได้สนับสนุนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้ค้าผลไม้ของไทย ในการช่วยกระจายผลผลิตทางการเกษตรจากกลุ่มเกษตรกรคุณภาพของไทยอย่างเต็มกำลัง ซึ่งบริการ ‘Farmers’ Market (ตลาดเกษตรกร)’ ถือเป็นความมุ่งมั่นที่จะใช้แพลตฟอร์มของแกร็บ ในการช่วยเหลือเพิ่มช่องทางรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรไทยทั่วประเทศ รวมไปถึงการส่งมอบผลไม้คุณภาพจากเกษตรกรส่งตรงถึงมือของผู้บริโภคในราคาที่เป็นมิตร โดยผู้ที่สนใจสามารถอุดหนุนเกษตรกรผู้ค้าผลไม้ของไทยผ่านบริการ GrabMart ภายใต้ชื่อ ‘Farmers’ Market (ตลาดเกษตรกร)’ ในแอพพลิเคชัน แกร็บ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป”
“ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การร่วมแรงร่วมใจจากคนไทยทั่วประเทศจะสามารถเป็นกำลังสำคัญ ในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้ผ่านความท้าทายนี้ไปได้ แกร็บ ในฐานะผู้ให้บริการ ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งตัวกลางในการสนับสนุนภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยส่งเสริมสินค้าและผลผลิตของไทย พร้อมส่งแรงใจให้คนไทยทั่วประเทศก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” ดร. เก่งการ กล่าวปิดท้าย