วันที่ 10 มิ.ย.แหล่งข่าวจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ถึงการเตรียมพิจารณาผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ ผ่อนปรน ระยะที่ 4 (เฟส4) ในวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย. นี้ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล
โดยแหล่งข่าวยอมรับว่า เสียงโหวตของศบค.ชุดเล็กแตกเป็น 2 ฝั่ง ในประเด็นการพิจารณาเปิดเพิ่มกิจการ กิจกรรม ที่มีความเสี่ยงสูงในกลุ่มสีแดง รวมทั้งการจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกเคอร์ฟิว
ฝั่งแรก สนับสนุนข้อเสนอของภาคธุรกิจที่เสนอให้ทดลองยกเลิกการใช้เคอร์ฟิว ให้เปิดธุรกิจสถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้กลับมาประกอบการได้ตามปกติ รวมทั้งอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ มากำกับดูแลมาตรการเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ
"ข้อเสนอนี้ เพราะมองว่า ตอนนี้ยังมีอำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว แล้วมีการเปิดสถานบันเทิง และให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ตามปกติ แต่มีมาตรการคุมโรค หากเกิดการติดเชื้อใหม่ ก็ยังมีอำนาจของพ.ร.ก.ฉุกเฉินในการ ออกประกาศใหม่เพื่อยกเลิกการเปิดสถานที่เสี่ยงเหล่านั้นได้ แล้วก็กลับมาใช้เคอร์ฟิวใหม่อีกรอบ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กด่วน ร่าง "คลายล็อกดาวน์" ระยะที่ 4 นั่งดื่มในร้านอาหารได้-ผับยังไม่ให้เปิด
เปิดเหตุผล "คลายล็อกดาวน์" ระยะ4 ทำไมเปิด-ทำไมปิดต่อ เริ่ม15 มิ.ย.
“วิษณุ”ชี้ยกเลิก “เคอร์ฟิว” ยึดก.ม.อย่างเดียวไม่ได้ต้องฟังหมอด้วย
สมช. เสนอทดลองยกเลิก เคอร์ฟิว 15 วัน ทั่วประเทศ
ขณะที่อีกฝั่ง ที่มีตัวแทนด้านสาธารณสุข เห็นต่างกับภาคธุรกิจ ที่มองว่าแม้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ควรอนุญาตให้เปิดกลุ่มกิจการ/กิจกรรมที่ไม่ใช่สถานบันเทิง ผับ บาร์ และไม่เห็นด้วยหากปล่อยให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ด้วย จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงในการระบาดซ้ำรอบสอง
"ส่วนการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวนั้น ฝั่งสาธารณสุขไม่ขัดข้อง เพราะว่ามีมาตรการคุมโรคในสถานที่เสี่ยงสูงอยู่แล้ว และไม่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านก็ไม่เพิ่มความเสี่ยง"
แหล่งข่าวระบุว่า แต่สุดท้ายเสียงแตกทั้งสองฝั่ง เจอข้อยุติที่ตรงกลางที่เตรียมจะเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่วันศุกร์นี้ คือ 1.ให้ทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน คือตามวงรอบของการเพาะเชื้อ 2.ไม่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ 3.แต่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เฉพาะในร้านอาหาร
"ซึ่งข้อสรุปของศบค.ชุดเล็กแม้จะเสียงแตก แต่ก็ยังอยู่ในแนวโน้มที่ตรงกันคือทดลองคลายล็อกในช่วงที่ยังมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินให้เต็มที่เท่าที่จะรับมือไหว ก่อนที่จะมีการยกเลิกในอนาคต ซึ่งยังจะต้องมีการหารือเรื่องใหญ่คือการเปิดเทอมของโรงเรียนต่างๆ"