รัฐบาลยังคงเดินหน้าผลักดันออกมาตรการเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศออกมาเป็นระลอก หลังจากที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ความเคลื่อนไหวล่าสุด วันนี้ (19 มิถุนายน 2563) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช้อปช่วยชาติ และขยายวงเงินจากเดิม 30,000 บาท เป็น 50,000 บาทเพื่อจูงใจให้ประชาชนออกมาจับจ่ายสินค้าหลังยอดรายได้ตกว่า กระทรวงการคลังพร้อมรับข้อเสนอของภาคเอกชนมาพิจารณามาอย่างต่อเนื่องซึ่งหากเห็นว่าอะไรมีความจำเป็นและเหมาะสมก็จะดำเนินการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ส.ค้าปลีก เปิดบ้านรับนายกตู่ ชง 4 มาตรการฟื้นศก.
รวมไปมาตรการด้านภาษีที่จะเกี่ยวข้องด้วยโดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ไปพิจารณาในเรื่องต่างๆ
“ต้องดูเป็นเรื่องๆ ว่าปัญหาคืออะไรและมาตรการไหนจะเหมาะสมโดยให้ทุกหน่วยงานดูร่วมกันหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็ออกมาตรการกระตุ้นมาโดยตลอด และล่าสุดก็มาตรการท่องเที่ยว ก็ถือว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้” นายอุตตม กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่อตัวเลขดัชนีค้าปลีกโดยไตรมาส 1 การเติบโตติดลบอยู่ที่ 3-7% ขณะที่ไตรมาส 2 ติดลบ 20 – 50% ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกในย่านเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ รวมถึงร้านค้าปลีกแฟชั่น เครื่องหนัง เครื่องสำอาง ได้รับผลกระทบมากที่สุด จนเมื่อมาตรการผ่อนคลายความเข้มข้น ธุรกิจค้าปลีก คาดว่า จะเริ่มทรงตัว แต่การเติบโตก็ยังไม่เหมือนเดิม คาดว่ายังคงติดลบมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ คาดว่า ธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าจะพลิกฟื้นกลับมาจุดเดิมคงต้องใช้เวลา 8-24 เดือน หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวมากหรือน้อยด้วย