อนุทิน เผย ยังไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการ Travel Bubble

ยังต้องลุ้นกันต่อไปสำหรับโครงการ Travel Bubble จากที่คาดการณ์กันกำลังจะได้ข้อสรุปจากมติการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ซึ่งล่าสุดยังไม่มีรายละเอียดและข้อสรุปในเรื่องนี้ออกมา วันนี้ (29 มิถุนายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการจับคู่เดินทางประเทศที่มีความปลอดภัยสูง (Travel Bubble) ว่า ขณะนี้มีเอกอัครราชทูตหลายประเทศติดต่อเข้ามาแต่เราต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจาก ศบค. ก่อน โดยหลักการปฏิบัติ คือ ผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยง ขณะที่ประชาชนในประเทศก็ต้องปลอดภัย ส่วนคนที่จะเดินทางไปในประเทศอื่น ก็ต้องปลอดภัยด้วย

ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีมาตรการที่ต่างกัน ทางกรมควบคุมโรคกับกระทรวงการต่างประเทศ กำลังหารือ สำหรับความกังวลเรื่องจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทันที ขอย้ำว่า ยังไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุข เสนอว่า ผู้ที่เข้ามาได้จะต้องมีความจำเป็นมากๆ อาทิ เช่น เจ้าหน้าที่ วิศวกร นักวิชาการ และช่างเทคนิคต่างๆ ที่จะต้องเข้ามาช่วยกิจการต่างๆ ในประเทศไทย เราจะอนุญาตให้เข้ามาก่อนได้ แต่ต้องยอมรับมาตรการต่างๆด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข เป็นฝ่ายสนับสนุน ยังไม่ใช่ผู้อนุมัติ สุดท้ายต้องรอ ศบค.พิจารณา

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

• ตรวจสอบ มติที่ประชุมศบค. มีมติ "คลายล็อก" อนุญาตชาวต่างชาติในบางกลุ่ม เข้าประเทศไทยแบบมีเงื่อนไข
• "เที่ยวปันสุข" ททท. บูม 3 โครงการใหญ่ ต่อยอด 3 แพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยว
• ชง​ "ทราเวล บับเบิ้ล" เข้า ศบค.เคาะศุกร์นี้ ย้ำ​มีเอ็มโอยูจับคู่ประเทศชัดเจน
• "Travel Bubble" เคาะพรุ่งนี้ "บิ๊กตู่" ย้ำชัด "ท่องเที่ยวอย่างจำกัด"

เมื่อถามถึงกรณีมีแรงงานเมียนมาร์ ที่เดินทางกลับประเทศ แล้วติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 คน โดยระบุว่า เดินทางมาจากประเทศไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องมีการสอบสวนโรคให้เรียบร้อยก่อน แต่ทางประเทศไทย ไม่เคยปิดบังข้อมูล เพราะเชื่อว่า ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา จะช่วยให้ประชาชนรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยประมาท และได้เตรียมพร้อมคน ยาและเวชภัณฑ์ สำหรับทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ก็ขอให้ประชาชน ยังรักษาวินัย ใส่หน้ากาก

สำหรับความคืบหน้าเรื่องวัคซีนต้านโควิด-19 นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเริ่มทดลองในลิงอีกครั้ง ส่วนภาคเอกชนได้ทดสอบในสัตว์แล้วซึ่งผลที่ออกมาค่อนข้างดี ทั้งนี้ หลังจากทดลองในลิงต้องผ่านขั้นตอนอีกมาก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดจึงจะสามารถทดลองในคนได้ซึ่งหากตนได้ทดลองก็พร้อมเพราะมั่นใจฝีมือคนไทย ส่วนวัคซีนจะใช้ได้อย่างเร็วที่สุดอาจจะเป็น 9 เดือนนับจากนี้