ถือเป็น 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกาศความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจรายล่าสุด เมื่อ “GMM GRAMMY” ผนึก VGI ปั้นโปรเจ็กต์ใหม่ นำจุดแข็งของแต่ละองค์กร มาเพิ่มช่องทางการค้า รองรับการขยายตัวทางธุรกิจด้านการเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ และผู้ให้บริการสื่อโฆษณา ทำให้ถูกจับตามองถึงก้าวต่อไปในอนาคต
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยยุทธศาสตร์ด้าน Media Partnership ปีนี้บริษัทจึงร่วมมือกับสื่อชั้นนำทั่วประเทศแบบครบวงจร รวมถึงแพลตฟอร์มรายใหญ่เพื่อการขยายฐานการเข้าถึงและการรับรู้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สื่อทีวี, สื่อวิทยุ, สื่อ Outdoor และสื่อโรงภาพยนตร์ ล่าสุดเป็นการประกาศความร่วมมือกับ VGI ในการเปิดช่องทางการค้ารวมถึงขยายช่องทางการทำการตลาดให้กับเจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการต่าง ๆ
โดย MUSIC SOLUTION ที่นำมาใช้ในการร่วมมือกันครั้งนี้ ได้แก่ 1. MUSIC CONTENT ซึ่งแกรมมี่มี CONTENT เพลง ในรูปแบบของ DIGITAL ALBUM ออกมามากมาย ที่ตอบโจทย์ในการเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายทั้ง REACH & ENGAGEMENT ครอบคลุมกลุ่ม NATIONWIDE / LOCAL HERO /FANBASE และ TRENDING ALBUM อาทิ KLEAR ในอัลบั้ม GROW IN THE DARK ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย NATIONWIDE , LOCAL HERO เจาะกลุ่มเป้าหมายในแต่ละท้องถิ่น อย่าง อัลบั้มลำซิ่งลิซึ่ม ของหญิงลี ที่เจาะกลุ่มภาคกลาง เป็นต้น
2.DIGITAL MEDIA อีกหนึ่ง ASSET ที่สำคัญของแกรมมี่ก็คือศิลปินและเหล่า INFLUENCERS ซึ่งถือได้ว่าแกรมมี่มี GMM INFLUENCER HUB กว่า 65 ล้าน FOLLOWERS ที่ทรงพลังอยู่ในมือ ครอบคลุมไปทุกกลุ่มเป้าหมาย NATIONWIDE & COVERAGE ตั้งแต่ระดับ ARTIST (ศิลปิน) / MACRO (เพจต่างๆ) ไปจนถึงระดับ LOCAL ( PAGE LOCAL) และ MICRO INFLUENCERS (INFLUENCERS ระดับ ท้องถิ่น) ทำให้สามารถสื่อสารเจาะกลุ่มได้ทั้งแนวราบและ แนวดิ่ง
3.ROAD TOURS กิจกรรมฟรีคอนเสิร์ต เจาะเข้าถึงตลาดภูมิภาคครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และครบวงจรในการทำ Music content คือ การทำ Online Offline และ On ground โดยในปีนี้มี Road tour ทั้งหมด 31 ครั้งครอบคลุมทุกพื้นที่ อาทิ แกรมมี่ซูเปอร์โชว์ บุก 8 จังหวัดเจาะพื้นที่ภาคอีสาน, CLASH Road tour 5 จังหวัด, POTATO Campus Tour รวม 10 มหาวิทยาลัย และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 25 ปีแกรมมี่โกลด์กับเส้นทางสายมิตรภาพ 8 จังหวัด
4. SHOWBIZ สำหรับคอนเสิร์ตขายบัตรทุกรูปแบบทั้ง MUSIC FESTIVAL อาทิ BIG MOUNTAIN / เชียงใหญ่เฟส / นั่งเล่น หรือ SOLO CONCERT ที่ถือได้ว่า แกรมมี่เป็นเจ้าตลาดกว่า 60% MARKET SHARE กว่า 300,000 ผู้ชมต่อปี ถือว่าเป็นช่องทางสำคัญสำหรับพาร์ทเนอร์รูปแบบ B2B ได้อย่างแท้จริง
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสีสันและความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลง ด้วยการนำ MUSIC CONTENT มาสื่อสารผ่านสื่อโฆษณาของ VGI 3 ประเภท คือ การ Wrap ตัวขบวนรถไฟฟ้า (TRAIN BODY) , สื่อจอดิจิทัลบนสถานีบีทีเอสและสื่อจอทีวีภายในขบวนรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารแบบ B2C ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสูงกว่า 1,300,000 คนต่อวัน
ขณะเดียวกันแกรมมี่ก็ได้มอบอาวุธหลักให้ VGI ได้นำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์แคมเปญและเพิ่มโซลูชั่นส์ในการใช้งานด้านสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งยังช่วยยกระดับในการสร้างการรับรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง CONTENT ใหม่ๆได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย
“การผนึกกำลังกันในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางการตลาด ที่ไม่เคยมีมาก่อนของบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งด้าน CONTENT PROVIDER และ ด้านการตลาด O2O Solutions จะช่วยกระตุ้นตลาด LIFESTYLE ให้มีความคึกคักมากขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและเข้าถึงมากขึ้น ทั้งในแง่ของ B2C ที่เป็นผู้บริโภคเอง และกลุ่มพันธมิตร B2B ของทั้ง 2 บริษัทและทำให้การทำการตลาดในเชิง MUSIC MARKETING มีความแปลกใหม่มากขึ้น โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำกันอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2020”