“เงินอุดหนุนบุตร-กลุ่มเปราะบาง”เตรียมรอรับเงินเบี้ยยังชีพ เช็กที่นี่

09 ก.ค. 2563 | 01:55 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2563 | 11:35 น.

พรุ่งนี้ 10 ก.ค. กลุ่มเปราะบาง เตรียมรอรับเเบี้ยยังชีพ เงินอุดหนุนบุตรเดือนละ 600 บาท

พรุ่งนี้ 10 ก.ค. กลุ่มเปราะบาง จำนวน 2 กลุ่ม อันได้แก่ กลุ่มเด็กแรกเกิด และ กลุ่มผู้สูงอายุ เตรียมรอรับเงินเบี้ยยังชีพจำนวน 600 บาท และ 1,000 บาท ตามลำดับ 

อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพครั้งนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558  เห็นชอบหลักการของโครงการ โดยให้ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ที่อยู่ในครัวเรือนยากจน หรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจนที่เกิดระหว่าง 1 ตุลาคม 2558 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2559 รายละ 400 บาท ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี (12 เดือน) 

โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกัน และเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ต่อเนื่องสำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่ในแต่ละปี โดยให้เงินอุดหนุนตั้งแต่แรกเกิดจนครบอายุ 3 ปี (36 เดือน) สำหรับเด็กที่อยู่ในครัวเรือนยากจน หรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน และเพิ่มเงินอุดหนุนเป็น 600 บาท ต่อเดือน  เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เงินอุดหนุนบุตร-กลุ่มเปราะบาง” รอรับเบี้ยยังชีพ วันศุกร์ที่ 10 ก.ค.นี้

อัพเดท "เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง" จะเริ่มจ่ายวันไหน เช็กได้ที่นี่

 

 

 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ค. กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้จัดสรรเงินให้กับกลุ่มตกหล่นที่ ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 1.14 ล้านราย โดยโอนเข้าบัตรจำนวน 3,000 บาท หลังเวลาบ่าย 3 โมง ของวันที่ 4 ก.ค.สิ้นสุดไปแล้วนั้น

คราวนี้ถึงเวลาของกลุ่มเปราะบางที่จะได้รับเงินอุดหนุนเบี้ยยังชีพซึ่งมีด้วยกัน  2 กลุ่ม คือ 

  1. เงินอุดหนุนรายเดือนสำหรับกลุ่มเปราะบางที่มีทั้งเด็กแรกเกิด -6 ปี ได้เดือนละ 600 บาท 
  2. ผู้สูงอายุจ่ายเป็นขั้นบันได 600 - 1,000 บาทต่อเดือน
  3. ผู้พิการ 800 บาทต่อเดือน (จะเพิ่มเป็น 1,000 บาท ในเดือนตุลาคม ) 
  4. โดยเงินอุดหนุนดังกล่าวหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดใดจะเข้าในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชม.