ตรังบูมเที่ยว‘สวนพริกไทยปะเหลียน’ โชว์เทรนด์สุดชิคชิม‘กาแฟพริกไทย’
ททท.ตรัง แนะเที่ยวสวนพริกไทยดำคุณภาพดี ฟื้นอดีตโด่งดังของพริกไทยปะเหลียน ช่วยเกษตรกรให้มีอาชีพเสริมอีกหนึ่ง และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ชี้ “ชา-กาแฟ” พริกไทยปะเหลียนเทรนด์ใหม่สุดชิค
ปั้น"สวนพริกไทยปะเหลียน" แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหม่ ททท.ตรัง หนุนฟื้นชื่อเสียงแหล่งปลูกพริกไทยชั้นดีสุดโด่งดังในอดีต ชี้เกษตรกรปลูกเสริมในสวนยาง-ปาล์ม ช่วยสร้างรายได้ พร้อมแนะหาประสบการณ์สุดชิคมีที่เดียวชิม"กาแฟพริกไทย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางเยี่ยมกลุ่มอนุรักษ์ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่สวนพริกไทยของนายสุรินทร์ ศักดิ์ประชาวุฒิ หรือ “โกเซ่ง” รองประธานกลุ่มอนุรักษ์ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน หมู่ที่ 8 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่อไป
นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดตรัง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ททท. ตรัง ได้รายงานไปว่ามีกลุ่ม เกษตรกรพื้นที่ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หันกลับมา อนุรักษ์การปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ซึ่งเป็นพันธุ์พริกไทยพื้นถิ่นที่มีชื่อมากว่าร้อยปี ชุมชนสามารถพัฒนาคุณภาพพริกไทยให้เป็นสินค้าพรีเมียม วางขายได้ตั้งแต่กิโลกรัมละ 500 บาท ขึ้นไปถึง 1,300 บาท
ด้านนายสุรินทร์ ศักดิ์ประชาวุฒิ รองประธานกลุ่มอนุรักษ์ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน รายงานว่า บริเวณตำบลสุโสะ มีเกษตรกรหันกลับมาปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน และมีการรวมตัวเป็นกลุ่มส่งเสริมและอนุรักษ์พริกไทยพันธุ์ปะเหลียนขึ้น เวลานี้มีสมาชิก 18 ราย โดยพริกไทยปะเหลียนมีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นสินค้าส่งขายไปทั่วประเทศ และส่งออกไปขายที่เกาะปีนัง มาเลเซีย และสิงคโปร์
แต่ต่อมาหันไปปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน หรือทำบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ที่ให้ราคาดีในระยะเริ่มต้น จนทำให้พื้นที่เพาะปลูกพริกไทยปะเหลียนลดน้อยลง แต่ยังมีเกษตรกที่ปลูกพริกไทยเพื่อบริโภคในครัวเรือน และทำขาย ในปัจจุบันเพียงไม่กี่ราย จึงชักชวนกันรวมตัวเป็นกลุ่มส่งเสริมการปลูกพริกไทยปะเหลียนขึ้นมาฟื้นฟูกันใหม่ เชื่อว่าจะสร้างความยั่งยืนแก่เกษตรกรได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เที่ยวปันสุข" ล่องใต้ไป"ตรัง" จัด 6 เส้นทางพาสุขรอรับ
“ตรัง”เสือปืนไวจัด 6 แพ็กเกจรับ อสม. "เที่ยวทั่วไทย"
ปัจจุบันพริกไทยดำปะเหลียนจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 500 บาท พริกไทยดำบดกิโลกรัมละ 700 บาท พริกไทยขาว ราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท และพริกไทยขาวบดมีราคากิโลกรัมละ 1,300 บาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า พริกไทยที่มีชื่อเสียงมาแต่อดีตมี 2 แหล่งคือ พริกไทยจันทบูร (จันทบุรี) และพริกไทยปะเหลียน จังหวัดตรัง เมื่อทางจังหวัดฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ส่งเสริมเกษตรกรชาวตำบลทุ่งยาวและสุโสะ หวนกลับไปปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่มีชื่อเสียงมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ เมื่อมีโอกาสจึงมาเยี่ยมชม เพราะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกพริกไทย จึงอยากให้มีการปลูกพริกไทยใน อ.ปะเหลียนให้มากขึ้น หวนกลบมาสู่อาชีพเดิมที่ปู่ย่าตายายเคยทำ และยังได้ราคาดี มีพื้นที่ปลูกเพียง 1-3 ไร่ ก็สร้างรายได้อย่างดี
หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,592 วันที่ 16 - 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563