ยอดสมาชิก กอช.ทะลุเป้า 1.2 ล้านคน

18 ก.ค. 2563 | 02:12 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ค. 2563 | 09:51 น.

รัฐบาลเปิดตัวเลขสมาชิก กอช. เผย 3 เดือนแรกมีสมาชิกกว่า 2.36 ล้านคน เกินค่าเป้าหมายเกินค่าเป้าหมายในแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมที่กำหนดไว้ 1 ล้านคน ย้ำ พร้อมเดินหน้าการออมกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ สร้างความมั่นคงวัยเกษียณ

ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้การออมเป็นวาระแห่งชาติเพื่อส่งเสริมให้คนทุกวัย โดยเฉพาะผู้มีอาชีพอิสระที่มีรายได้น้อย เช่น พ่อค้าแม่ค้า ผู้รับจ้างทำงาน เกษตรกร ได้เข้าถึงการออมอย่างเป็นระบบจะได้มีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต ซึ่งมีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนั้น ล่าสุดนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาการทำงานประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง กองทุนฯได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยในการเพิ่มสมาชิก สร้างพันธมิตรกับสถาบันการเงินและภาคเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกและการจ่ายเงินกองทุนฯ ที่ขณะนี้สามารถจ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีมากกว่า 13,000 แห่งได้แล้ว จากเดิมที่ต้องจ่ายผ่านธนาคารของรัฐเท่านั้น

 

ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีการรายงานความคืบหน้าตามแผนการปฏิรูปประเทศ ครม.ได้ทราบว่า ความพยายามผลักดันนโยบายรัฐด้านการส่งเสริมการออมอย่างต่อเนื่องของ กอช.ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ นำไปสู่จำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ณ เดือนมีนาคม 2563 มีจำนวน 2.357 ล้านคน เกินค่าเป้าหมายในแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมที่กำหนดไว้ 1 ล้านคน ขณะที่ช่วงปี 2561-2562 มีจำนวนสมาชิกราว 7 แสนคนเท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กอช. รื้อกฎหมาย เพิ่มเงิน “สะสม-สมทบ” ขยายอายุสมาชิก

การออมระยะยาวที่มาพร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี

คลังยืนยัน"เราไม่ทิ้งกัน"ไม่เปิดลงทะเบียน รับเงินเยียวยา 5,000 เพิ่ม

 

ส่วนการดำเนินการต่อยอด กอช.จะลงพื้นที่สร้างตัวแทนการออมประจำหมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมความความรู้ความเข้าใจให้เห็นถึงประโยชน์ของการออมกับ กอช. มีเป้าหมาย 7 หมื่น 5 พันคน ในปีนี้

นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการออม และครม.ได้เห็นชอบให้เป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว โอกาสนี้จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนอายุตั้งแต่ 15-60 ปี ที่มีอาชีพอิสระ (ไม่ใช่ข้าราชการและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม) หรือนักเรียน/นักศึกษา สมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ เพราะเป็นการออมในรูปแบบ “คุณออม รัฐช่วยออม คุณได้บำนาญ” เช่น ถ้าส่งเงินสะสมเดือนละ 100 บาท รัฐจะสมทบให้อีก 50% ของเงินสะสม (แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อปี) และจำนวนเงินสมทบจากรัฐบาลจะเพิ่มขึ้น ตามเกณฑ์ที่กำหนด เมื่ออายุครบ 60 ปี สมาชิกจะได้บำนาญรายเดือน ส่วนการส่งเงินสะสม ต้องไม่น้อยกว่าครั้งละ 50 บาท แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี

“สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ธนาคารของรัฐ คลังจังหวัดทั่วประเทศ แอพพลิเคชัน กอช. จากนี้ อยากให้ประชาชนตื่นตัวเรื่องการออม จะออมมากน้อยก็ขอให้ได้เริ่ม การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เราเห็นว่าการมีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงจะช่วยสร้างหลักประกันในวัยเกษียณด้วย การออมต้องสร้างให้เป็นนิสัย และการออมกับ กอช.ถือเป็นการออมแบบค่อยเป็นค่อยไป ยืดหยุ่น แต่ให้ผลตอบแทนอย่างดีและมีความมั่นคง” นางสาวรัชดา กล่าว