ศบค.เตรียม “คลายล็อกโรงเรียน” เรียนตามปกติไม่ต้องสลับวัน 

27 ก.ค. 2563 | 09:17 น.

ศบค. เตรียม "คลายล็อก" ให้นักเรียน เรียนหนังสือตามปกติ ไม่ต้องสลับวัน ชี้กระทบการเรียนรู้ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เหลื่อมล้ำ โภชนาการ

วันนี้ (27 ก.ค. 63) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.  เปิดเผยถึงแนวทางการ "คลายล็อก" หรือ ผ่อนคลายมาตรการของสถานศึกษา หลังเปิดสถานศึกษามา 1 เดือน ว่า ศบค. ชุดเล็กมอบหมายให้กรมควบคุมโรคร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการประเมินทิศทางที่ผ่านมาตลอด 1 เดือน ยังไม่พบการติดเชื้อในกลุ่มนี้ 

 

จากข้อมูล เด็กเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ ในประเทศมีเพียงแค่ 1-6% ช่วงอายุ 0 - 9 ปี พบเพียงแค่ 1.9% หรือ 62 ราย ตั้งแต่เริ่มมีการติดเชื้อมา อายุ 10-19 ปี มี 126 ราย คิดเป็น 3.87% และไม่เคยมีรายงานพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเลย 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดผู้ติดโควิด 27 ก.ค.63  ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย กลับจากสหรัฐและไต้หวัน

"คลายล็อก เฟส 6" โอเคไหม "กักตัว 14 วัน" ต่างชาติเข้าไทย 

ผวา! ฟิลิปปินส์ติดโควิด เพิ่ม 2,110 ราย

"ทิสโก้" ชี้ศก.ทั่วโลกอาจชะงักหลังหมดมาตรการกระตุ้น ฉุดหุ้นตกแรง

 

 

ปัจจุบันมี 4,528 โรงเรียน ที่ต้องใช้วิธีการสลับเวลาเรียน สลับวันเรียน เนื่องจากสถานที่คับแคบและเด็กมีจำนวนมากกว่าห้องเรียน มีผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็ก ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงทรัพยากร และผลกระทบด้านโภชนาการ จึงมีการประชุมร่วมกันของ สธ. และ ศธ. ถึงข้อพิจารณาการผ่อนคลายนี้ให้นักเรียนไปเรียนได้ตามปกติ โดยมีมาตรการเสริม 

ศบค.เตรียม “คลายล็อกโรงเรียน” เรียนตามปกติไม่ต้องสลับวัน 

มีการกำกับโดยสถานศึกษาและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ผ่านการดูแลจากแต่ละหน่วยงานเป็นลำดับ สอดคล้องกับเรื่องประเด็นที่ 3 มีกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูการตรวจประเมินและติดตามผลหลังการเปิดภาคเรียน และแนวปฏิบัติของสถานการณ์การเสี่ยงต่อการติดโรคในมาตรการผ่อนคลายของสถานศึกษา พบว่าสถานศึกษามีมาตรการความปลอดภัยจากการลดการแพร่เชื้อโรคถึง  99.47% มีไม่ครบเพียงแค่ 0.53% หรือ 132 แห่ง ก็ได้มีการชี้แนะให้ปรับปรุงให้ครบ จากโรงเรียน 25,140 แห่งที่เข้าไปสำรวจ พบรายงานเด็กป่วยอยู่ที่ 687 คน มีรายงานป่วยเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ แต่ไม่ใช่โควิด-19  

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มาตรการนี้มีมาพร้อมกับเรื่องของการสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยทำให้พบเด็กป่วยน้อยลง โรงเรียนส่วนใหญ่ 96% มีแผนรองรับ ไม่มีเพียง 3.75% เท่านั้นที่จำเป็นต้องเข้าไปแนะนำเพิ่มเติม ซึ่ง ศบค. ได้นำข้อมูลต่าง ๆ มาพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อการผ่อนคลายมาตรการให้เกิดผลกระทบต่อเด็กนักเรียนให้น้อยที่สุด การเรียนการสอนต้องไม่สะดุดและการควบคุมโรคเป็นไปได้ด้วยดี

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายในรถโดยสารสาธารณะ ช่วงระหว่างวันหยุดยาว ทางกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม รายงานต่อที่ประชุม ศบค. เช้านี้ว่ามาตรการต่าง ๆ ได้รับความร่วมมือจากทางผู้ประกอบการและทางขนส่งของทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ในทุก ๆ กระบวนการ ส่วนการกำกับดูแลจะมีผู้กำกับประเมินที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดเช็คพ้อยท์ 99 จุดกระจายไป ตลอด 24 ชั่วโมง ดูในเรื่องของการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ จากการประเมินผลช่วงวันที่ 28 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 63 รายงานว่ามีการใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยร้อยละ 99.7 เจลแอลกอฮอล์ร้อยละ 98.22 การเว้นระยะห่างร้อยละ 99.97 QR Code ร้อยละ 98.74 โดยขอความร่วมมือจากภาคประชาชนคนทั่วไป ผู้ใช้บริการ ได้ช่วยเป็นผู้ประเมินด้วย เพื่อจะได้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น