สัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 34.7 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 2,021 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาทอง ปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 2,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตลาดทองคำเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ นอกจากนี้ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง รวมทั้งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 34.7 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 2,021 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัญญาทองคำทะยานขึ้นทะลุแนว 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์และปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นั้น จะมีความคืบหน้า
นายชัค ชูเมอร์ แกนนำของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "เรามีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง และใกล้จะบรรลุข้อตกลง โดยแม้ว่ายังมีหลายประเด็นที่ยังไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ แต่เราพยายามที่จะผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐ "มีการเจรจาที่ดีมาก" ร่วมกับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชูเมอร์
ทั้งนี้ การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่ซึ่งมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ยังคงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่จะมุ่งเน้นในการช่วยเหลือเด็กๆ ให้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง และช่วยเหลือพนักงานให้สามารถกลับเข้าทำงาน อีกทั้งปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งประเภทอายุ 10 ปี และ 30 ปี ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ และยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.18% แตะที่ 93.3827 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น