นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ทิศทางและนโยบายการดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยหลังจากนี้ที่จะต้องสอดคล้องกับนโยบายทางด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยไปรษณีย์จะต้องมีความรวดเร็ว สามารถตอบสนองกับทุกไลฟ์สไตล์เนื่องจากไปรษณีย์ไทยสามารถเข้าได้ถึงทุกความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องมีมิติการทำงานที่มุ่งเน้นมากกว่าผลกำไร เพราะด้วยอัตลักษณ์และศักยภาพของไปรษณีย์ไทยนั้นสามารถเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมได้แบบควบคู่กัน โดยในช่วงปี 2562 และ 2563 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าไปรษณีย์ไทยมีแนวทางการทำงานทั้งในเชิงนโยบาย และในทางปฏิบัติเพื่อสังคมที่เด่นชัด ซึ่งแนวทางดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแล้ว ยังถือเป็นมิติการทำงานที่รัฐวิสาหกิจจำเป็นต้องใช้เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไปรษณีย์ไทย ผนึก เอสซีจี ผุดโครงการ ไปรษณีย์ reBOX
ทั้งนี้ล่าสุดไปรษณีย์ไทยยังได้ดำเนินกิจกรรมคืนกำไรและแบ่งปันความสุขให้กับสังคม ซึ่งได้ร่วมกับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแคมเปญ “ไปรษณีย์ reBOX เปลี่ยนกล่อง/ ซองเป็นของขวัญปีใหม่ 2564” ที่เปิดรับกล่องพัสดุทุกประเภท รวมถึงซองกระดาษที่ไม่สามารถใช้ซ้ำได้ มาแปรรูปเป็นอุปกรณ์การเรียนเพื่อส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้น้องๆ นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนโดยแคมเปญนี้ถือเป็นกิจกรรมที่สอดรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการส่งของต่างๆ ผ่านบริการไปรษณีย์ไทย รวมถึงบริษัทขนส่งเอกชนอื่นๆ มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น ไปรษณีย์ reBOX จึงเป็นแคมเปญที่จะช่วยให้เกิดการลดปริมาณขยะ ต่อเนื่องไปถึงการแบ่งปันความสุขให้กับผู้ห่างไกล ทั้งนี้ ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าว โดยสามารถตรวจสอบสาขาไปรษณีย์ไทยที่เป็นจุดรับคืนกล่องและซองเก่าได้ที่ www.thailandpost.co.th