นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ออมสินได้ปรับปรุงการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีวงเงินเดิมที่เหลืออยู่ 10,000 ล้านบาท จากที่เหลือทั้งหมด 18,988 ล้านบาท หลังจากที่อนุมัติไปแล้ว 1,012 ล้านบาท โดยการให้ปล่อยกู้ผ่าน “สินเชื่อเสริมพลังฐานราก” ภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน เพื่อช่วยเหลือแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมประชาชนผู้ประกอบอาชีพทุกกลุ่ม โดยให้กู้ได้ถึง 31 ธ.ค.2563
สำหรับสินเชื่อประเภทนี้ต้องการช่วยเหลือบุคคลที่มีอาชีพค้าขาย ประกอบอาชีพอิสระ และผู้มีรายได้ประจำรวมถึงบุคคลในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลงหรือขาดรายได้ ด้วยเป็นสินเชื่อเพื่อการดำรงชีพ เพื่อการลงทุน/หมุนเวียนในกิจการ ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ไม่เกิน 3 ปี ที่สำคัญไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันเงินกู้ อีกทั้งยังปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย หรือไม่ต้องชำระเงินงวดใน 6 เดือนแรกอีกด้วย
“โควิดยังคงส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีอาชีพอิสระและผู้มีรายได้ประจำ ธนาคารออมสินจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสินเชื่อเสริมพลังฐานรากที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว จะเป็นการบรรเทาสถานการณ์ที่เดือดร้อนลงได้ไม่มากก็น้อย”นายวิทัย กล่าว