อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

05 ต.ค. 2563 | 05:34 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2563 | 12:33 น.

เปิดแผนซ่อมท่อประปา ทุ่งครุ แตก งานหิน สะเทือนตอม่อทางยกระดับวงแหวน ถนนกาญจนาภิเษกด้านใต้ทรุด ยันเร่งซ่อมเสาตอม่อให้แล้วเสร็จก่อนคาดใช้เวลา 3-4 วัน จากนั้นการประปาหลวง จึงดำเนินการเข้าไปซ่อมแซมท่อ คาด 5-7 วันจากนี้ จึงจะมีน้ำใช้ปกติ ทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปพรางก่อน

หลังจากเกิดเหตุ ท่อ​ประปาขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 1,200 มิลลิเมตร แตกรั่วฉุกเฉิน บริเวณหมู่บ้านเดอะแกรนด์  ใต้ทางด่วนยกระดับ​ ถนนกาญจนาภิเษกด้านใต้​ ของกรมทางหลวง​ (ทล.) จนทำให้ เสาตอม่อทางยกระดับวงแหวนด้านใต้ทรุดเอียงที่บริเวณ กม.4+400 (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 พระประแดง –บางขุนเทียน) เขตทุ่งครุ  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2563      

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

ส่งผลให้ น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล มาเป็นเวลากว่า 3 วันแล้วในพื้นที่ดังต่อไปนี้

• ถนนกาญจนาภิเษกด้านใต้ ตั้งแต่คลองหัวกระบือ ถึงถนนสุขสวัสดิ์

• ถนนสุขสวัสดิ์ ตั้งแต่ถนนนครเขื่อนขันธ์ ถึงถนนคลองสรรพสามิต (แหลมฟ้าผ่า)

• ถนนประชาอุทิศ ทั้งเส้น

• ถนนคลองสรรพสามิตร ทั้งเส้น

• ถนนประชาอุทิศ-วัดคู่สร้าง ทั้งเส้น

นอกจากนี้ยังกระทบต่อการเดินทาง เนื่องจาก กรมทางหลวงต้อง ปิดการจราจรช่องทางซ้ายบนทางยกระดับ 1 ช่องทาง เพื่อไม่ให้ตอม่อรับน้ำหนักมากเกินไป


ล่าสุดจากการหารือร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 4 ตุลาคม 2563  ได้ข้อสรุปว่าประชาชนในย่านดังกล่าว  อาจจะต้องสำรองน้ำไว้ใช้ราว 5-7 วัน กว่าจะเข้าสู่ปกติ ระหว่างรอการซ่อมท่อประปาทุ่งครุแตกแล้วเสร็จ เนื่องจากได้ข้อสรุปว่า จะต้องให้กรมทางหลวง ดำเนินการซ่อมเสาตอม่อทางด่วนที่หักให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นทางการประปานครหลวง จึงจะสามารถดำเนินการซ่อมท่อประปาได้

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน
 เนื่องจากจุดรั่วอยู่ลึกจากผิวดิน และมีความซับซ้อนในการซ่อม ซึ่ง ต้องใช้นักประดาน้ำดำน้ำลงไปในเส้นท่อเพื่อซ่อมแซม


นาย ประสพสุข สมประสงค์ รองผู้ว่าการบริการด้านตะวันตก  การประปานครหลวง กล่าวว่า ท่อประปาดังกล่าว  มีขนาด 120 ซม. แตกรั่วเป็นระยะทางยาว การประปานครหลวง ได้ส่งชุดประดาน้ำลงไปในท่อ เพื่อหาทางแก้ไขซ้อมแซมอย่างเร่งด่วน แต่จุดที่เสียหายนั้นอยู่บริเวณใต้น้ำ จึงส่งผลให้มีความทำงานค่อนข้างยากลำบากและท่อน้ำประปาดังกล่าวเป็นท่อน้ำแรงดันสูง

อย่างไรก็ตาม การประปานครหลวง จะ เร่งแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันเบื้องต้นการประปานครหลวงได้จัดรถน้ำประปา จำนวน 18 คัน และได้จัดรถน้ำเอกชนอีก 20 คัน เพื่อออกแจกจ่ายน้ำให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซ่อมท่อประปา ทุ่งครุ แตก งานหิน สะเทือนตอม่อทางยกระดับวงแหวนทรุด

กปน. หาน้ำให้ชาว ทุ่งครุ ประทังชีวิต กรมทางหลวง  เบี่ยงจราจร ซ่อมตอม่อ 24ชั่วโมง

 

 เนื่องจาก ท่อน้ำประปาเส้นนี้ส่งจ่ายน้ำให้มีความยาวประมาณ 40 ก.ม. ทำให้น้ำไม่ไหลในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ  เขตทุ่งครุ  และเขตราษฎร์บูรณะ จ.กรุงเทพ

 

นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.เขต 7 จ.สมุทรปราการ ได้รุดเข้าดูพื้นที่ท่อประปาแตก โดยได้ประสานกับการประปาแล้ว เบื้องต้นคงใช้เวลาประมาณ 7 วัน เพราะติดขัดที่ต้องซ่อมทางด่วนที่เสาหักให้แล้วเสร็จ จึงจะซ่อมได้ แต่ทางการประปาจะตัดเชื่อมประปาเส้นทางอื่นให้ใช้ก่อน แต่น้ำคงจะแรงดันน้อยปลายสายอาจจะไหลไม่ถึง

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

อีกทั้งในเบื้องต้นการประปานครหลวงได้จัดรถน้ำประปาจำนวน 18 คัน และได้จัดรถน้ำเอกชนอีก 20 คัน เพื่อออกแจกจ่ายน้ำให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากท่อน้ำประปาเส้นนี้ส่งจ่ายน้ำให้มีความยาวประมาณ 40 ก.ม.ทำให้น้ำไม่ไหลในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ อ.พระประแดง เขตทุ่งครุ และเขตราษฎร์บูรณะ

 

การที่ตนเองและคณะได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบและหาทางช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับประชาชนในพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อหาสาเหตุและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดน้ำใช้สองอำเภอของจังหวัดสมุทรปราการ คือ อำเภอ พระประแดง และอำเภอพระสมุทรเจดีย์ รวมถึงเขตกรุงเทพมหานคร เช่น เขตทุ่งครุ และใกล้เคียงก็พลอยได้รับผลกระทบจากการที่น้ำประปาไม่ไหล
 

ขณะนี้จะประสานไปยังอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้แจ้งให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ และยังมีการประสารไปยังกองทัพภาคที่ 1 เพื่อขอ รถบรรทุกน้ำ สนับสนุนแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนไปก่อนระหว่างการซ้อมแซมจะเสร็จสิ้น

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา  (4 ตุลาคม 63 ) เช่นกันได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงาน  คือ กรมทางหลวง  ประกอบด้วย  นายสมบูรณ์ เทียนธรรมชาติ ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและออกแบบ นายทวีศักดิ์  รุจิจรรยาวัฒน์ รักษาการวิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ,นายสุกิจ ยินดีสุข วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ นายเกรียงไกร เดชไชยปราการ ผู้อำนวยการแขวงธนบุรี  ร่วมกับนายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่า กทม และ นายธนาชิต ชุติกาญจน์ ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ  ผู้แทน การประปานครหลวง (กปน.) และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

โดยได้มีการประเมินสถานการณ์ และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน ทันที คือ

1) ให้ทำการเบี่ยงจราจรด้านบน สะพานในช่วงความยาวที่เสียหาย จำนวน 1 ช่องจราจร

2) ให้เตรียมทีมงาน เพื่อส่งน้ำใช้ตามจุดต่างๆ รอบพื้นที่โครงการแก่ประชาชน  ที่ประสบปัญหาน้ำประปาไม่ไหล โดยทีมงานแขวงการทางฯ,เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตทุ่งครุ ของ กทม, และเจ้าหน้าที่ การประปาฯ ร่วมกัน

3) เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่และจัดทีมเฝ้าระวังเพื่อเตรียมเครื่องสูบน้ำ และทีมเจ้าหน้าที่เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน ตลอดเวลา

 

หลังจากนั้นดำเนินการเสริมเสถียรภาพทางด้านวิศวกรรมของโครงสร้างชั้นดิน ตามแนวของสะพานไปยังท่อระบายน้ำโดยรอบของโครงการ  ,ติดตั้งระบบโครงสร้างระบบรับน้ำหนักสะพานชั่วคราว (Temporary Support) และทำการเสริมโครงสร้างความมั่นคงของทางยกระดับ  โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ

อัพเดทท่อประปาทุ่งครุแตก รอ 5-7 วันมีน้ำใช้ปกติ เหตุต้องซ่อมตอม่อวงแหวนทรุดก่อน

 

ส่วนที่ 1  คือ ดำเนินการเสริมเสถียรภาพทางด้านวิศวกรรมของโครงสร้างชั้นดินบริเวณเสาเข็มในจุดเดียวกับต้นที่ยังไม่เสียหาย โดยเมื่อชั้นดินเริ่มรับกำลังได้ ก็จะทำการติดตั้งระบบโครงสร้างรับน้ำหนักสะพานชั่วคราว (Temporary Support) และทำการติดตั้งระบบเสริมเสถียรภาพของดินบริเวณที่ทำการซ่อมท่อประปา เช่น การใช้ผนังเหล็กกันดิน เช่น Sheet Pile และทำการเปิดหน้าดิน เปลี่ยนท่อประปา  โดยระหว่างการเปิดหน้าดินให้ เฝ้าระวังการเคลื่อนตัวบริเวณปากบ่อด้วย

ส่วนที่ 2 คือ หลังซ่อมเปลี่ยนท่อประปา ทำการ ปิดหน้าดิน คืนพื้นที่ข้างใต้สะพานแล้ว

 

ทำการบูรณะสะพาน และทำการเสริมโครงสร้างความมั่นคงของทางยกระดับ โดยคาดว่าขั้นตอนต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้ จะใช้ระยะเวลากว่า 3-4 วัน ขั้นตอนซ่อมงานประปาใช้เวลา 18-24 ชม. ดังนั้นจะสามารถ เริ่มกลับมาบริการจ่ายน้ำประปาได้ปกติภายใน 4-5 วัน

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 นายกวี อารีกุล ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุท่อประปาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,200 มิลลิเมตการประปานครหลวงแตกรั่วฉุกเฉิน และมีตอม่อของทางด่วนฯ ชำรุดในบริเวณดังกล่าว  ขณะนี้กรมทางหลวงได้ปิดการจราจรช่องทางซ้ายสุดของทางด่วนวงแหวนด้านใต้ช่วงที่ผ่านบริเวณที่ตอม่อชำรุด เพื่อลดความเสียหายของโครงสร้างทางด่วน และเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง 

 

จากการหารือกับกรมทางหลวง ได้ข้อสรุปในการดำเนินการ คือ เนื่องจากลักษณะของการแตกรั่วไม่สามารถดำเนินการซ่อมจากภายในท่อโดยใช้ประดาน้ำได้ต้องใช้การเปิดหลุมตัดท่อส่วนที่ชำรุดออกและเปลี่ยนท่อใหม่ยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้


    
เนื่องจากการเปิดหลุมใกล้ตอม่อทางด่วนอาจทำให้โครงสร้างทางด่วนเสียหายมากขึ้นจะเกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้ทางด่วน กรมทางหลวงจึงจำเป็นต้องเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างส่วนที่เสียหายก่อนซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์

 

ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงให้มีน้ำใช้ก่อนในระดับหนึ่ง กปน. จึงจะดำเนินการวางท่อประปาชั่วคราว (ท่อ HDPE) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 700 มิลลิเมตร ความยาวประมาณ 70 เมตร คร่อมจุดแตกรั่วดังกล่าว

โดยจะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 2 วัน โดยจะเริ่มดำเนินการในคืนวันนี้(5 ตุลาคม 2563)เป็นต้นไป ซึ่งการวางท่อประปาชั่วคราวนี้ แม้จะไม่สามารถจ่ายน้ำได้ในปริมาณเท่ากับท่อเดิมขนาด 1,200 มิลลิเมตร แต่จะช่วยให้พื้นที่ขาดแคลนน้ำประปาลดน้อยลง บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ 


อนึ่งเมื่อกรมทางหลวงดำเนินการเสริมความแข็งแรงให้ตอม่อทางด่วนที่ทรุดตัวดังกล่าวแล้วเสร็จ กปน. จึงจะดำเนินการซ่อมท่อประปาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,200 มิลลิเมตร เป็นการถาวรเพื่อสามารถจ่ายน้ำได้ตามปกติต่อไป ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาดำเนินการเพียง 1 วัน

 

อย่างไรก็ตาม กปน. คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหา และยังคงระดมรถน้ำทั้งจาก กปน. ภาคเอกชน ตลอดจนบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ เพื่อให้บริการประชาชน