สแกน 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเงินเข้าระบบ 200,000 ล้าน

08 ต.ค. 2563 | 00:52 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2563 | 08:32 น.

สแกน 3 มาตรการโครงการจับจ่ายใช้สอย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,คนละครึ่ง และ ช้อปดีมีคืน คาดเงินเข้าสู่ระบบกว่า 200,000 ล้านบาท

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ได้มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง และ เพิ่มวงเงินบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (ศบศ.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการช้อปดีมีคืน ที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง ภายใต้ มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กที่นี่ www.คนละครึ่ง.com ก่อนเปิดลงทะเบียน 16 ต.ค.รายละเอียดมีอะไรบ้าง

ศบศ.ขยายเวลา "เราเที่ยวด้วยกัน" ยาวถึงปี 64

บัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนตุลาคมเงินเข้าอีกรอบวันไหน

มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ลดหย่อนภาษีได้ 3 หมื่นบาท

 

ทั้ง 3 มาตรการ คือ บัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,โครงการคนละครึ่ง และ ช้อปดีมีคืน  ทั้ง 3 มาตรการ รัฐบาลขับเคลื่อนเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค. คาดว่ามีเงินเข้าสู่ระบบกว่า 200,000 ล้านบาท

ต่อกรณีดังกล่าว นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ออกมาแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ศบศ. ว่า ได้มีการขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ออกไปจนถึงเดือน ม.ค. 64 โดยปรับเงื่อนไขบางประการเพื่อกระตุ้นให้คนใช้สิทธิ์เดินทางมากขึ้น

 

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศมี 3 กลุ่ม ดังนี้

 

  • การเพิ่มวงเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน 14 ล้านคน คนละ 500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 63) วงเงินกว่า 21,000 ล้านบาท
  • โครงการคนละครึ่ง (Co-Pay) กำหนดโควตา 10 ล้านคน คนละ 3,000 บาท ใช้จ่าย 3 เดือน (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 63) รัฐออกให้วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ประชาชนร่วมจ่าย 30,000 ล้านบาท คาดมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 60,000 ล้านบาท
  • ช้อปดีมีคืน ช่วยผู้ประกอบการในระบบภาษี โดยให้ประชาชนซื้อของแล้วสามารถนำมาขอคืนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, บุหรี่, สลากกินแบ่งรัฐบาล, น้ำมัน, ค่าที่พัก และตั๋วเครื่องบิน) นำไปลดหย่อนภาษีได้ในช่วงเดือน มี.ค. 64 เริ่มใช้จ่าย 23 ต.ค. - 31 ธ.ค. 63 โดยคาดว่าจะมีคนใช้สิทธิ์ราว 4 ล้านคน เป็นวงเงินใช้จ่าย 120,000 ล้านบาท โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ในวันที่ 12 ต.ค.นี้

สแกน 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเงินเข้าระบบ 200,000 ล้าน