แม้ว่าธุรกิจครอบครัวจะมีความสำคัญอย่างมากต่อภาคเศรษฐกิจในทุกประเทศ และผลการดำเนินงานของธุรกิจครอบครัวก็เหนือกว่าบริษัททั่วไปที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว แต่ปัจจุบันกลับพบว่ามีทายาทรุ่นใหม่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังทิ้งทางเลือกที่จะเข้าร่วมงานกับธุรกิจของครอบครัวและหันไปสร้างเส้นทางของตัวเอง คนรุ่นใหม่มักมีการศึกษาที่ดี
เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี มีความทะเยอทะยานสูงและมีความฝันเป็นของตัวเอง พวกนี้เชื่อในการทำสิ่งที่แตกต่างและน่าเพราะคนรุ่นเห็นถึงช่องว่างระหว่างวัย นอกจากนี้พวกเขายังต้องสร้างความน่าเชื่อมั่นให้กับสมาชิกในครอบครัวก่อนที่จะได้รับงานสำคัญๆ ในธุรกิจครอบครัวด้วย
เนื่องจากคนรุ่นเก่ามักจะขาดความเชื่อมั่นในความสามารถของคนรุ่นใหม่อย่างน้อยก็ในระยะเริ่มต้น ซึ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดให้กับคนรุ่นใหม่และเป็นสาเหตุทำให้คนรุ่นใหม่ๆ หันไปทำธุรกิจของตัวเอง
เนื่องจากสามารถควบคุมธุรกิจได้และไม่มีการแทรกแซงจากสมาชิกในครอบครัว แม้ว่าแนวโน้มนี้จะเป็นผลดีต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพรายใหม่ๆ แต่ก็ส่งผลกระทบทางลบอย่างมากต่อธุรกิจครอบครัวที่มีอยู่ในระยะยาว
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยไอเดีย ความกระตือรือร้นและสปิริตที่ พวกเขาจะเปิดกว้างสำหรับการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ สร้างความหลากหลาย การนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ การร่วมมือกับพันธมิตรและทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพื่อให้ธุรกิจมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมองธุรกิจด้วยมุมมองใหม่ๆ และชอบที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในแนวทางของตัวเอง
ขณะที่ธุรกิจครอบครัวที่ยังไม่ปรับตัวมักไม่เปิดกว้างสำหรับการคิดใหม่ แม้ธุรกิจครอบครัวบางแห่งจะดูเหมือนว่าตนเองจำเป็นต้องสร้างนวัตกรรมและการดำเนินงานและกระบวนการที่เป็นมืออาชีพ แต่ในปฎิบัตินั้นมีธุรกิจครอบครัวเพียงไม่กี่รายที่ทำได้จริง เนื่องจากธุรกิจครอบครัวมักหลีกเลี่ยงจากความเสี่ยงที่จะรบกวนสมดุลที่มีอยู่ปัจจุบันของตน หรืออาจพูดได้ว่าบางครอบครัวพยายามที่จะรักษาพื้นที่คุ้นเคย (Comfort Zone) ของตนเองไว้
หากธุรกิจครอบครัวต้องการให้การสืบทอดกิจการเป็นไปอย่างราบรื่น ก็จะต้องเข้าใจและสามารถผสานความต้องการของครอบครัวเข้ากับความต้องการของคนรุ่นใหม่ให้ได้ จากรายงานล่าสุดของ PwC เปิดเผยว่าสิ่งสำคัญ 4 ประการที่คนรุ่นใหม่มักนำมาใช้ในธุรกิจครอบครัวของตนคือ การจ้างบุคคลภายนอกที่มีประสบการณ์มาช่วยปรับธุรกิจให้ทันสมัย หรือเป็นมืออาชีพ มองหาลู่ทางในการเปิดตลาดการค้าใหม่ สร้างความหลากหลายด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ และมองหาการลงทุนในบริษัทใหม่เพื่อพัฒนาควบคู่ไปกับธุรกิจเดิมของครอบครัว
ดังนั้นคนแต่ละรุ่นควรพิจารณาความสนใจของคนรุ่นอื่นอย่างรอบด้าน ในขณะที่คนรุ่นเก่าจะต้องคำนึงถึงความคิดของคนรุ่นใหม่และพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น คนรุ่นใหม่ก็จะต้องเข้าใจถึงความห่วงใยที่แท้จริงของคนรุ่นเก่า ซึ่งก็คือการรักษาความมั่นคงและความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาวนั่นเอง
การลดปัญหาทายาทไม่ยอมเข้ามาทำงานในธุรกิจของครอบครัวนั้นเกิดขึ้นมานานและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หากสามารถผสานความสามารถคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในกิจการของครอบครัวก็จะทำให้ธุรกิจครอบครัวสามารถสร้าง S-Curve ใหม่ หรืออาจจะเป็นการทำ Transformation เข้าสู่ยุคใหม่ของธุรกิจ เพราะเรื่องสำคัญเหล่านี้ไม่เพียงต้องการคนที่มีความสามารถมาขับเคลื่อน
แต่ต้องเป็นคนที่มีมุมมองระยะยาวกับธุรกิจ ที่สำคัญต้องรักในธุรกิจนั้นด้วย ดังนั้นการป้องกันปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการปลูกฝัง Passion ในธุรกิจครอบครัวให้ทายาทตั้งแต่เล็ก และสร้างชื่อเสียงของธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับของสาธารณชนจะทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลง
ที่มา: Sharma, L. 2020. Why are the Next-Gen entrepreneurs losinginterest in their family businesses? Available: https://economictimes.indiatimes.com/familybusinessforum/insights/why-are-the-next-gen-entrepreneurs-losing-interest-in-their-family-businesses/familybusinessforum_show/63516631.cms
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,617 วันที่ 11 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง