“คนละครึ่ง” ธนาคารกรุงไทย เอาจริง ผิดเงื่อนไข ระงับการใช้จ่าย ดำเนินคดี

29 ต.ค. 2563 | 08:00 น.

“คนละครึ่ง”ธนาคารกรุงไทย พบใช้จ่ายเงินผ่านโครงการผิดปกติ เดินหน้าตรวจสอบเชิงลึก หากพบทำผิดเงื่อนไขระงับการใช้จ่ายผ่านแอปทันที พร้อมส่งข้อมูลให้กระทรวงคลังดำเนินคดี

โครงการ "คนละครึ่ง" ที่เปิดให้ประชาชนและร้านค้าลงทะเบียนบนเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยรัฐร่วมจ่ายผ่านฝ่ายผู้ซื้อ 50%ไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท/คน ตลอดโครงการ ล่าสุดมีการตรวจสอบพบว่ามีการใช้จ่ายเงินผ่านโครงการผิดปกติ

ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด หากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการคนละครึ่ง จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชัน การจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที รวมทั้งจะส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณา ดำเนินการลงโทษทางกฎหมายต่อไป

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารตรวจสอบพบพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินผ่านโครงการคนละครึ่งผิดปกติ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถระบุจำนวนรายได้ ซึ่งกรุงไทยจะต้องลงไปดูรายละเอียดทุกกรณี และการตรวจสอบจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าธนาคารจะต้องดำเนินการอย่างไร โดยธนาคารจะส่งข้อมูลมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง เพื่อลงโทษตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ยืนยันว่า กรุงไทย ได้นำระบบการป้องกันการทุจริตในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากลมาสนับสนุนโครงการเพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งหากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการคนละครึ่ง จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที จึงขอให้ประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบของฐานเศรษฐกิจพบว่า กระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ที่กำหนดให้ผู้ลงทะเบียนยอมรับใน www.คนละครึ่ง.com ก่อนลงทะเบียนมี 4 เงื่อนไขสำคัญที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการต้องปฏิบัติตามอย่างแคร่ครัด หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกตัดสิทธิ ดังนี้

 

1.ผู้ได้รับสิทธิคนละครึ่งต้องใช้สิทธิภายใน 14 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับข้อความสั้น (SMS) แจ้งว่าได้รับสิทธิ หากไม่ใช้สิทธิภายในเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก กรณีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จก่อนวันเปิดให้ใช้สิทธิ์ 23 ตุลาคม 2563 ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ

 

2. ห้ามนำเงินที่ได้จากคนละครึ่งไปซื้อ สลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบ และบริการต่างๆ

 

3. ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการ หรือโครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ

 

4. หากผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่รัฐภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการกระทำดังกล่าว โดยชดใช้ความเสียหายผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด

 

ด้านนางสาวสุภัค  ไชยวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีร้องเรียนถึงการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ว่า หากได้รับข้อร้องเรียน กระทรวงการคลังจะประสานกับหน่วยงานที่ดูแลร้านค้าเหล่านี้ เช่น หากเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไปที่อยู่ในการควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ก็จะให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปตรวจสอบ และหากเป็นร้านโอทอป จะให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เข้าไปตรวจสอบ

 

หากพบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาจริง จะให้หน่วยงานกำกับดำเนินการเตือนไปยังร้านค้า หากพบว่ายังกระทำความผิดซ้ำเดิมอยู่ กระทรวงการคลังจะตัดสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการทันที

 

“ตามเงื่อนไขก่อนเข้าโครงการระบุอยู่แล้วชัดเจน หากทำผิดก็จะถูกตัดสิทธิ์ และจะถูกตัดบัญชีการรับจ่ายเงินที่จะโอนเข้าทันทีเช่นกัน แต่หากพบว่ามีความผิดฉวยโอกาสขึ้นราคาครั้งแรก ก็จะให้หน่วยงานไปตักเตือน เป็นการให้โอกาส แต่หากยังทำผิดอีกก็จะตัดสิทธิ์ตามเงื่อนไข”นางสาวสุภัค  กล่าว