ระนองเฮ ครม.สัญจร ปลดล็อคที่ดิน มอบหนังสือเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ป่าสงวน และป่าชายเลน รวม 3 แห่ง คลายปมย่านเศรษฐกิจแพปลา เปิดทางพัฒนารับเป้าหมายประตูฝั่งตะวันตก คมนาคมไฟเขียวงบ 800 ล้าน ขยายสนามบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 ที่โรงแรมสแปลช บีท รีสอร์ท ไม้ขาว ก่อนการประชุมครม.สัญจรจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เข้ารับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 2 ป่า ได้แก่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำขาว และป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองหัวสุย รวมเนื้อที่ประมาณ 3,594 ไร่ และรับมอบหนังสืออนุญาตเพื่อทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 1 ชุมชน เนื้อที่ 91 ไร่ 52 ตารางวา มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้มอบ
การได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนนี้ จะช่วยรองรับการขยายตัวของการค้าการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจหลักของจังหวัดระนอง ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าฝั่งตะวันตกด้านทะเลอันดามัน รวมทั้งเป็นฐานเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของเมียนมาในอนาคต
นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ส.ส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การได้รับมอบหนังสือเข้าทำประโยชน์ฯ ครั้งนี้ถือว่าความฝันของชาวระนองเป็นจริง เรื่องที่ดินเป็นปัญหามายาวนานและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ จ.ระนอง จากสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา 70% ที่ราบมีเพียง 30% ทำให้มีพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิน้อยและส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนที่พักอาศัย มีแพปลาชายทะเลเป็นป่าชายเลนที่ค้าขายได้ง่าย ที่ต่อมาขยายตัวเป็นธุรกิจห้องเย็น โรงงานแปรรูปอาหารทะเล ในบริเวณป่าชายเลนเสื่อมโทรมที่ทางการอนุโลมให้เข้าอยู่อาศัยและประกอบกิจการจนเป็นย่านเศรษฐกิจหลักของเมือง
แต่จากปัญหาสภาพพื้นที่บริเวณที่เป็นเขตโรงงานส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และบางส่วนอยู่ในเขตป่าชายเลน ทำให้ไม่สามารถพิจารณาให้ตั้งโรงงานได้ โดยเดิมทีบางส่วนมีการ
ขอใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ผ่านทาง อบจ.ระนอง เพื่อนำมาจัดสรรให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวได้ ต่อมาเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงก็ไม่สามารถให้เช่าต่อได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้เรียกร้องผลักดันให้แก้ปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมาปลดล็อกได้ในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้นักธุรกิจมั่นใจในการลงทุนเพิ่มทำให้เศรษฐกิจเมืองคึกคักมากขึ้น
ปัจจุบัน ระนองมีโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมง รวม 310 โรงงาน เงินลงทุน รวม 3,541 ล้านบาท มีจำนวนแรงงาน 7,264 คน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานระนอง โดยมีนายเจือ ราชสีห์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีคมนาคม นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าฯ ระนอง นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ส.ส.ในพื้นที่ ร่วมประชุม
นายถาวร เปิดเผยว่า กรมท่าอากาศยาน(ทย.) มีแผนพัฒนาท่าอากาศยานระนอง โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้จ้างที่ปรึกษารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานระนอง งบประมาณ 5 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2564 มีแผนในการจ้างออกแบบปรับปรุงขยายอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานระนอง งบประมาณ 27.72 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567-70 ทย. จะดำเนินการตามแผนในการก่อสร้างขยายทางวิ่ง (รันเวย์) จากเดิมยาว 2,000 เมตร เป็น 2,500 เมตร งบประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ทั้งเที่ยวบินในและต่างประเทศ และโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ และอาคารประกอบ งบประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อรับรองจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 700 คนต่อชั่วโมง
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 11 ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,625 วันที่ 8-11 พฤศจิกายน พ.ศ.2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาล ศึกษาแลนด์บริดจ์ เชื่อมทะเลชุมพร-ระนอง
มะกันตื่น‘แลนด์บริดจ์’ ส่งทูตเกาะติดล้วงข้อมูล