วันนี้(18 พ.ย.63) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. ครั้งที่ 5/2563
นายดนุชา พิชยนันทน์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งในที่ประชุมศบศ. ให้กระทรวงการคลังไปเร่งพิจารณาดูมาตรการ "คนละครึ่ง" ใน ระยะต่อไป หลังพบว่า การทำมาตรการที่ผ่านมาได้ช่วยให้กระตุ้นการใช้จ่ายได้ดีมาก ส่วนจะปรับปรุงโครงการด้วยการเพิ่มวงเงิน หรือ ขยายระยะเวลาโครงการเพิ่มเติมอย่างไรนั้น กระทรวงการคลังต้องไปทำการบ้าน และเสนอมาให้ที่ประชุมศบศ.เห็นชอบในครั้งต่อไป ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการคนละครึ่ง ล่าสุด ณ วันที่ 17 พ.ย.2563 โดยมีกิจการลงทะเบียนรวมทั้งหมด 717,549 ร้าน แบ่งเป็นกิจการที่ลงทะเบียนสำเร็จ 417,138 ร้าน กิจการที่รอดำเนินการตรวจสอบ 206,620 ร้าน และกิจการไม่เข้าข่ายเงื่อนไขของโครงการ 6,102 ร้าน ส่วนประเภทของกิจการที่ลงทะเบียนสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม 228,810 ร้าน ส่วนร้านธงฟ้า 44,278 ร้าน ร้าน OTOP 15,240 ร้าน และร้านค้าทั่วไป 128,810 ร้าน
โดยกิจการที่ลงทะเบียนคนละครึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง 275,617 ร้าน รองลงมาอยู่ ภาคใต้ 142,396 ร้าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 135,612 ร้าน ขณะที่ผู้ลงทะเบียนมีทั้งสิ้น 9,277,402 ราย ใช้สิทธิแล้ว 8,751,739 ราย ได้สิทธิแล้วแต่ยังไม่ใช้ 625,663 ราย มีจำนวนสิทธิคงเหลือสำหรับเปิดลงทะเบียนเพิ่ม 722,598 ราย ปัจจุบันมียอดใช้จ่ายรวม 18,716.3 ล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายจากส่วนประชาชน 9,541.4 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 202 บาทต่อคน