เอริค เฉิง ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Carsome เปิดเผยว่า การระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Carsome เพื่อบูรณาการโมเดลธุรกิจแบบรวมศูนย์ มีความแข็งแกร่งพร้อมด้วยการเปิดใช้งานดิจิทัลแบบ เอ็นด์ทูเอ็นด์ สำหรับผู้ขายรถยนต์มือสอง ตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อ พร้อมกันนี้ นายเอริคกล่าวว่า “เราจะใช้เงินทุนรอบนี้เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับภูมิภาคที่มีอยู่ในอีคอมเมิร์ซรถยนต์มือสอง แบบผู้บริโภคถึงธุรกิจ (C2B) และเร่งการนำเสนอใหม่ที่ประสบความสำเร็จแล้วในส่วนธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) เราหวังว่าจะเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรทั้ง C2B และ B2C แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนแพลตฟอร์มรถยนต์มือสองซึ่งเป็นประสบการณ์การค้าปลีกแบบใหม่ที่เหนือกว่าอย่างมาก” เฉิงกล่าว
“ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เรามีรายได้ต่อเดือนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญมากและส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาค” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ลูกค้าในตลาดหลักของเรา ประกอบด้วย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และสิงคโปร์ ซึ่ง ซื้อรถยนต์มากขึ้น เพื่อให้ครอบครัวเดินทางอย่างปลอดภัยและปรับเปลี่ยนช่องทางในการทำธุรกิจ”
โอลิเวอร์ เอ็ม ริปเพิล บริษัท Asia Partners ให้ความเห็นเกี่ยวกับการระดมทุนว่า Carsome มีผู้บริหารที่เก่งมีความสามารถ ผนวกกับโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมรองรับต่อการเติบโตในอนาคต พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า “แนวทางในการนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรทั้งสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์มือสองจาก Carsome เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ เราเห็นว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นแนวทางสำหรับตลาดรถยนต์มือสองในอนาคต และหวังว่าจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเอริคและทีมงานที่มีความสามารถ เพื่อช่วยขยายธุรกิจในภูมิภาค"
Carsome ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 เติบโตขึ้นตามลำดับจนปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และปัจจุบันมีธุรกรรมค้าขายรถยนต์ 70,000 คันต่อปี คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Carsome เริ่มต้นธุรกิจในมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมาได้เปิดดำเนินงานในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย เพื่อขยายฐานลูกค้าในภูมิภาค
นับตั้งแต่วันเริ่มก่อตั้ง Carsome ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นตลอดในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุด Carsome บันทึกรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ด้วยรายได้เพิ่มขึ้นสองเท่าจากช่วงก่อนการระบาด และในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Carsome ได้ฉลองยอดผู้ขายรถจำนวน 100,000 รายผ่านแพลตฟอร์มซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในช่วง 5 ปีนับตั้งแต่วันก่อตั้ง
นอกจากนี้ Carsome สามารถทำกำไรจากการดำเนินงานในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ จูเลียต ซู ซีเอฟโอของ Carsome กล่าวว่า "เราสร้างธุรกิจที่สามารถเผชิญกับวิกฤติได้ ปรับขนาดได้ และทำกำไรได้ ทั้งการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และอัตราการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” พร้อมเสริมว่า “การระดมทุนรอบซีรีส์ ดี จะทำให้เราสามารถดำเนินการควบรวมกิจการ และการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพ และการประสานงานซัพพลายเชนของเราได้”
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของ Carsome คือ ความมุ่งมั่นในการตรวจสอบรถยนต์อย่างเข้มงวดโดยนำเสนอรถยนต์ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจาก Carsome ให้กับลูกค้าโดยตรง ซึ่งช่วยสร้างความไว้วางใจของผู้บริโภคและตัวตนของแบรนด์ในตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งที่ผ่านมามีแต่ความซับซ้อน ทั้งนี้ รถทุกคันที่ทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม Carsome ต้องผ่านการตรวจสอบ 175 จุด และการซื้อรถยนต์ของ Carsome ทุกคันจะได้รับการรับรองด้วยดี ด้วยการรับประกันเพิ่มเติมและการรับประกันคืนเงิน”
ความสำเร็จของ Carsome ในช่วงที่ผ่านมา ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์มือสองแบบออฟไลน์ และแยกส่วนผู้ขาย-ผู้ซื้อ สู่ระบบดิจิทัล ตลอดจนความสามารถในการเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนใหม่ในรอบ ซีรีส์ ดี
ทั้งนี้ อัลเบิร์ต ชายย์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียของ Burda Principal Investments จากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ลงทุนในรอบ ซีรีส์ บี ในการระดมทุนครั้งแรก กล่าวว่า “เรารู้สึกประทับใจที่ Carsome ให้การสนับสนุนผู้ขายรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในช่วงการแพร่ระบาด” นอกจากนี้แล้ว แรนดอล์ฟ ซู ผู้ร่วมก่อตั้งของ Ondine Capital ในไทเป นักลงทุนในรอบ ซีรีส์ ซี กล่าวว่า “เราได้เห็นการเติบโตและความยืดหยุ่นของ Carsome ในช่วงที่เกิดโรคระบาดและภูมิใจที่ได้ให้การสนับสนุนต่อไป”
ในขณะที่แพลตฟอร์มของ Carsome เติบโตขึ้นจากกระแสลมดิจิทัล แต่อย่างไรก็ดี Carsome ยังคงมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนพันธมิตรเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาด Carsome นำเสนอสิ่งจูงใจและรางวัลโบนัสมากมายสำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสองในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ภายใต้โครงการสนับสนุนตัวแทนจำหน่าย (Dealer Alliance Support Program) นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดตัวกองทุนสนับสนุนโควิด-19 ในปีนี้ สำหรับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดอีกด้วย