พระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ต่อปวงชน ฝ่าวิกฤตโควิด 19 พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย กระจายทุกภูมิภาคของประเทศ สามารถควบคุมโรคได้เร็ว และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และข้อจำกัดการเข้าถึงการตรวจคัดกรอง รวมทั้งการเก็บตัวอย่างในกลุ่มเสี่ยงเพื่อค้นหาเชิงรุกและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้โดยเร็ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพพลานามัยของประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้อย่างใกล้ชิด และมีพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ พระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย “ต้นแบบ” จำนวน 1 คัน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 เพื่อให้กรมควบคุมโรคทดลองใช้ และนำมาพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ต่อมาวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 พระราชทาน “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย พระราชทาน” เพิ่ม 13 คัน ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ในการตรวจค้นหา คัดกรอง เก็บตัวอย่าง โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เป็นการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ในการนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการกระจายรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย พระราชทานตามโซนเขตทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการให้บริการกับประชาชนทุกพื้นที่ และสนับสนุนการดำเนินงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในการปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19 เชิงรุก ในโรงเรียน วัด ชุมชนแออัด แรงงานต่างด้าว ผู้สัมผัสโรคโควิด 19 ในเรือนจำ หมู่บ้าน และกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ เช่น กลุ่มผู้เดินทางทุกระบบ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ผู้โดยสารสาธารณะ เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปัจจุบันพบว่า รถตรวจเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานให้บริการไปแล้วครอบคลุมประชาชนกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ 2 พฤษภาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2563 รวมทั้งหมด 51,443 ราย นับว่า รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานได้เข้าถึงชุมชนควบคุมการแพร่ระบาดได้รวดเร็ว เช่น ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงใน จ.ระยอง 6,843 ราย, ตรวจนักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษา สร้างความมั่นใจก่อนเปิดเรียน 3,207 คน, กรณีผู้ป่วยชาวซูดาน ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง 364 ราย, อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง 2,582 ราย
ล่าสุด กรณีตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้ขับรถรับจ้างจากประเทศเมียนมา จ.เชียงราย ตรวจ 900 ราย และกรณีจังหวัดที่มีผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและพิจิตร พื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 นครสวรรค์ ได้คัดกรองค้นหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน รวม 6,943 ราย โดยผลการตรวจทั้งหมดไม่พบเชื้อ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
นอกจากนี้สร้างการเข้าถึงให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น นิสิตนักศึกษาที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร และการขับเคลื่อนนโยบายในการป้องกันควบคุมโรคอีกด้วย กรมควบคุมโรคและพสกนิกรชาวไทย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน