คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันผู้คนมีความอดทนอดกลั้นน้อยลง สืบเนื่องจากความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีที่ทำให้เราแทบไม่รู้จักคำว่า “รอ” อีกต่อไป แต่ในขณะเดียวกันหลายคนเกิด “ความเครียด” มากขึ้น โดยเฉพาะความเครียดในที่ทำงาน บทความนี้ขอเสนอวิธี “เลือก” ซึ่งเป็นวิธีคลายเครียด คลายกังวล และสร้างความสุขให้เกิดขึ้นขณะทำงาน
นับตั้งแต่ลุกจากเตียง สิ่งที่มนุษย์งานหลายคนคิดคือ ไม่อยากไปทำงาน ด้วยเหตุผลนานาประการตั้งแต่เบื่อรถติด กลัวเจ้านาย ไม่อยากเจอเพื่อนร่วมงาน โครงการไม่เสร็จ เกลียดการเข้าประชุม หรือไม่อยากเจอลูกค้า ซึ่งจริงๆ แล้วความคิดแรกของวัน ควรเป็นความคิดที่สดใส ปลอดโปร่ง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของวันใหม่ ดังนั้นผู้เขียนขอเสนอ 4 วิธีคิดที่จะช่วยเพิ่มความสุขในชีวิตทำงานแต่ละวัน
1) เลือกมองโลกเชิงบวก เวลามีคนมาถามเรื่องงานด้วยคำถามเดิมๆ หรือต้องสอนงานเด็กฝึกงานหรือพนักงานใหม่ บางคนอาจรู้สึกเบื่อหน่าย หงุดหงิดที่ต้องพูดซํ้าๆ แต่อยากให้ลองมองในมุมบวกว่า การที่มีคนมาถามเรา หรือให้เราสอน อย่างน้อยๆ เราได้ทบทวนความรู้ ได้กลับไปค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อมาตอบคำถามนั้น เป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจให้ตัวเอง นอกจากคิดบวกแล้ว ต้องคิดดีด้วย ถ้าเรื่องไหนที่เราสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ แนะนำว่าให้ลองช่วย ไม่นิ่งนอนใจ เพราะเมื่อปัญหาผ่านไปแล้ว สิ่งที่เราจะได้รับอย่างแน่นอนคือ ความอิ่มเอิบใจในการช่วยเหลือผู้อื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิถีใหม่ของสื่อทีวี กับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค (จบ)
นอกจากนี้อยากให้ระลึกไว้เสมอในการเป็นมนุษย์ทำงานคือในการทำงานเรามักพบปัญหาหลากหลาย ทั้งที่สามารถแก้ได้ทันทีและต้องอาศัยเวลาหรือผู้อื่นมาช่วยแก้ มีวันที่ดีหรือวันวายป่วง หยิบจับอะไรก็ผิดพลาดไปหมด นี่คือเรื่องปกติของชีวิตการทำงาน เราไม่ควรจมปลักโทษตัวเอง ไม่ควรเสียเวลาขวนขวายหาคนผิด ที่สำคัญอยากให้จำไว้ว่า ทุกปัญหามีทางออก เพียงแต่ว่าทางออกนั้นมันจะถูกใจเราหรือไม่ และบางปัญหาอาจต้องอาศัยเวลาหรือตัวช่วยในการแก้ไข
2) เลือกมองหาและมองเห็นความสุขเล็กๆ ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม ยกตัวอย่าง เราอาจตื่นเช้าไปทำงานแล้วเจอรถติด ฝนตกหนัก เจอคนขับรถปาดหน้า ซึ่งทำให้เราหัวเสีย แต่ถ้าเราเลือกหาความสุขจากเหตุการณ์เหล่านี้ได้ เราก็สามารถมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ตลอดเวลา เช่น วันนี้ฝนตก ให้คิดว่าเป็นเรื่องดี อากาศไม่ร้อนเกินไป รถติดก็เปิดพอดแคสต์ฟังเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ ระหว่างเดินทางมาทำงานเจอผู้คนยิ้มให้ ก็ส่งรอยยิ้มกลับไปให้พวกเขา เจอคนขับรถปาดหน้า ก็ให้คิดว่าเขาอาจมีธุระด่วน มาถึงที่ทำงาน แทนที่จะคิดเรื่องน่าเบื่อ ก็เดินไปทักทาย เม้ามอยกับเพื่อนร่วมงานถึงซีรี่ส์ที่เราดู หรือข่าวที่เราอ่าน พยายามบอกตัวเองว่า วันนี้ฉันจะเป็นคนที่มีความสุข
3) เลือกอยู่ห่างจากปัจจัยลบ เรามีสิทธิและเสรีภาพที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่ต้องไม่กระทบสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น ในเมื่อเรารู้ว่า ตรงไหนที่เรามีความสุข เราก็มีสิทธิที่จะอยู่ตรงนั้น ตรงไหนที่เราอยู่แล้วไม่มีความสุข เราก็เดินออกมา ถ้าเราอยู่ในวงล้อมของคนที่มีความคิดบวก ตามหลักแล้ว เราก็จะคิดบวกตาม ในทางกลับกัน ถ้าแวดวงที่เราอยู่ มีแต่คนคิดลบ ความคิดของเราก็จะมีแนวโน้มไปทางลบด้วย ดังกฎของแรงดึงดูดที่ว่า ถ้าเราคิดถึงสิ่งไหนมากๆ โลกจะดึงดูดสิ่งนั้นมาหาเรา เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมที่หลอมรวมให้เราเป็นเราทุกวันนี้
4) เลือกให้เกียรติและให้ความสำคัญกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเราเสมอ หลายคนอาจเคยถูกถามว่า ใครคือคนสำคัญที่สุด บางคนบอกแฟน บางคนบอกพ่อแม่ และบางคนบอกเพื่อน แต่อยากให้คิดว่า คนที่อยู่ตรงหน้าเรา ณ ช่วงเวลานั้นๆ คือคนที่สำคัญกับเราที่สุด ซึ่งการคิดแบบนี้จะช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
จะเห็นได้ว่า ความสุขในชีวิตการทำงาน จริงๆ แล้วไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากตัวเรา ในการเลือกคิดบวก เลือกคิดดี เลือกมองหาความสุขเล็กๆ ในทุกกิจกรรม ใช้สิทธิเพื่อเลือกให้ตัวเองมีความสุข และเลือกสภาพแวดล้อมที่ดี การเลือกเหล่านี้จะทำให้เรามีความสุข เมื่อเรามีความสุขแล้ว ก็ควรส่งต่อความสุขสู่คนรอบข้าง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและกระจายความสุขให้ฟุ้งไปทั่วออฟฟิศ
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,636 วันที่ 17 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563