การบริหารจัดการขยะ เป็นเรื่องของทุกคน แต่ในฐานะที่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เป็นองค์กรที่เป็นเจ้าของและบริหารอาคารขนาดใหญ่ ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ รวมถึง ไอคอนสยาม และ สยามพรีเมี่ยม เอาท์เล็ต เพียงแค่ 3 ศูนย์บริเวณสยามเซ็นเตอร์ ไปจนถึงโรงแรมสยามเคมปินสกี้ ก็ใช้ไฟฟ้ามหาศาล เทียบได้กับหนึ่งตำบลเลยทีเดียว ขณะเดียวกันปริมาณขยะที่เกิดจากศูนย์แต่ละศูนย์ก็มีมากมาย
ในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และตระหนักรู้ถึงปัญหาของขยะและพลังงาน สยามพิวรรธน์จึงบริหารจัดการขยะและพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัล สาขา Responsible Business Leadership จากเวที “Asia Responsible Enterprise Awards 2020” หรือ AREA 2020 และรางวัล Green Leadership ในฐานะองค์กรที่มีนโยบายดูแลรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ พื้นที่ที่ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจ พร้อมกันนี้ สยามพิวรรธน์ ยังเดินหน้า Green Leadership ด้วยการนำหลัก 3Rs ได้แก่ Reduce Reuse Recycle มาใช้ในการสร้างระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในโครงการ ตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรต้นแบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก ที่ส่งเสริมหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน สู่ “องค์กรขยะเป็นศูนย์” กับการจัดการขยะได้แบบ 360 องศา
“นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า การบริหารจัดการขยะเป็นสิ่งที่สยามพิวรรธน์ทำมาต่อเนื่องกว่า 20 ปี เริ่มต้นจากค่อยๆ ทำ ด้วยการให้ความรู้กับเด็กและพันธมิตร และมีการต่อยอดสู่กิจกรรมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง และโครงการสำคัญที่จะเป็นไฮไลท์ของปีนี้ก็คือ โครงการ ‘Recycle Collection Center’ ที่มีการต่อยอดสู่ชุมชน ด้วยการพูดคุยและร่วมมือกับโรงเรียนและวัด เพื่อตั้งจุด Drop-Off Point นอกเหนือจากในอาคารของสยามพิวรรธน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการขยะประเภทต่างๆ ที่สามารถรีไซเคิล มาส่งมอบไว้ที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อนำไปเข้ากระบวนการอัพไซคลิ่ง หรือรีไซเคิลอย่างถูกต้อง
โครงการ ‘Recycle Collection Center’ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นประชาชนให้ใส่ใจกับการแยกขยะมากขึ้น ควบคู่กับการให้ความรู้เรื่องการบริหารขยะที่สยามพิวรรธน์ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ทั้งการให้ความเด็ก ประชาชนทั่วไป พันธมิตร รวมถึงซาเล้งที่เข้ามารับขยะจากศูนย์ของสยามพิวรรธน์ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการขยะได้ถูกวิธี และยังทำให้เกิดการต่อยอดสร้างมูลค่า เพิ่มรายได้ให้กับพันธมิตรอีกด้วยโดยบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มปริมาณการนำขยะเข้าสู่ระบบการจัดการที่ถูกวิธีเพิ่มขึ้นทุกปี และขณะนี้ยังร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อรวบรวมข้อมูลสร้างการจัดเก็บขยะให้เป็นระบบต่อไป
ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการพลังงาน “ดิเรก อำนวยกาญจนสิน” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิศวกรรม สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า บริษัทได้แยกการบริหารจัดการพลังงานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ไฟฟ้า นํ้าประปา และก๊าซ
ส่วนของไฟฟ้า สยามพิวรรธน์ ตั้งเป้าลดปริมาณการใช้พลังงานปีละ 5% ต่อเนื่อง และที่ผ่านมา ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้สามารถประหยัดไฟฟ้าได้กว่า 150 ล้านบาท ส่วนที่ไอคอนสยาม มีการติดตั้งโซล่ารูฟ และนำพลังงานทดแทนที่ได้ราว 0.8 เมกะวัตต์กลับมาหมุนเวียนใช้ภายในอาคาร ส่วนของนํ้าประปา ก็มีการนำกลับมารีไซเคิลใช้ภายในอาคาร
พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมกระตุ้นจิตสำนึกพนักงาน ในการประหยัดพลังงานต่อเนื่อง และปี 2564 บริษัทได้จัดทำ เพาเวอร์ มอนิเตอร์ริ่ง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานแต่ละตึกแบบเรียลไทม์ เพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานได้อย่างเป็นระบบ
สยามพิวรรธน์ ได้ต่อยอดการประหยัดพลังงาน การบริหารจัดการขยะ เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม เข้ากับกระบวนการทำ งานขององค์กรจนเป็นเนื้อเดียวกัน และยังมีแผนที่จะต่อยอดการทำ งานต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,642 วันที่ 7 - 9 มกราคม พ.ศ. 2564