วันนี้ (15 ม.ค.63) นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณะสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นครั้งแรก
ภายหลังการประชุม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การประชุมนัดแรก มีการกำหนดแนวทางการฉีดวัคซีน โดยเห็นชอบแผนการเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีน โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุดเพื่อศึกษาด้านวิชาการศึกษาผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ การให้วัคซีน จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ
ระยะแรกเริ่มตั้งแต่ กุมภาพันธ์- เมษายน 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่วัคซีนมีจำนวนจำกัด
ส่วนระยะที่ 2 ที่จะมีวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดยการฉีดจะให้ประชาชนลงทะเบียนรายชื่อยึดหลักความสมัครใจไม่บังคับ
สำหรับกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนก่อน จะต้องเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมี 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
และ 2.กลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว
โดยจะไม่มีการฉีดให้เด็กและคนท้อง
ส่วนผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน จะมีการตั้งคณะกรรมการที่เชี่ยวชาญขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ หลังฉีดวัคซีนไปแล้วทางกระทรวงสาธารณะสุขจะติดตามผลอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อดูผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ซึ่งในต่างประเทศเคยมีการติดตามผลข้างเคียงจากผู้ที่ได้รับวัคซีน พบว่ามีน้อยมาก เช่นในแคนาดา พบแค่ 9 ในล้าน หรือ 10 ในล้านเท่านั้น