แม้จะมีสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ยังคงเดินหน้าแผนงานใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลประชาชน หรือเตรียมความพร้อมเพื่อดึงดูดการพัฒนาเข้าพื้นที่หลังการระบาดเชื้อโควิด-19 สงบลง เทศบาลตำบลบ้านฉาง เดินหน้าสู่เมืองอัจฉริยะตั้งเป้าเป็นเทศบาล 5 จีแห่งแรกของไทยรองรับอนาคคตเมืองการบินอู่ตะเภา ด้านเทศบาลนครภูเก็ตกับเทศบาลตำบลราไวย์จับมือ “บ้านปู เน็กซ์” สร้างเมืองปลอดภัยจากอาชญากรรม-สิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง นายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล (ทต.) บ้านฉาง นำคณะผู้บริหารเทศบาล ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู)กับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท 5จี แคททะลิต เทคโนโลยี โดยนายนิพัทธ์ ยมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ผู้แทนลงนาม ในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคมอัจฉริยะพื้นที่ตำบลบ้านฉาง
นายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง กล่าวว่า 5จีเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนยีครั้งใหญ่ของเทศบาลตำบลบ้านฉาง เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่ยุคดิจิทัล สร้างตำแหน่งงานมากมาย เป็นการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เสริมสร้างการค้าการลงทุนกับนานาประเทศ สร้างธุรกิจใหม่ๆ ขับเคลื่อนความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวบ้านฉาง ลดความเหลื่อมลํ้าเชื่อม ใช้งานได้ในหลากหลายมิติ
โดยเทคโนโลยีก้าวหน้านี้จะเชื่อมต่อเข้ากับระบบกล้องวงจรปิดไปยัง สภ.บ้านฉาง มีระบบเอไอตรวจจับใบหน้าและทะเบียนรถ เพื่อตรวจการณ์เฝ้าระวังดูแลภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงใช้ทางการแพทย์ พบหมอทางออนไลน์ ลดการเดินทางไปที่โรงพยาบาล โดยเชื่อมต่อสัญญาณโรงพยาบาลบ้านฉาง ไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ หรือด้านการท่องเที่ยว เกี่ยวกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกตามชายหาด รวมถึงใช้ในด้านการศึกษา-การเกษตรได้อีกด้วย
นายนิพัทธ์ ยมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคฯ กล่าวว่า บริษัทฯยินดีที่ทางเทศบาลตำบลบ้านฉางเลือกมาทำโครงการเทศบาล 5 จี ซึ่งเป็นการนำร่องแห่งแรกประเทศไทย ในการพัฒนาตำบลบ้านฉางให้เป็นเมืองอัจฉริยะ เพื่อรองรับอนาคตเมืองการบินที่จะตั้งอยู่รอบสนามบินอู่ตะเภา สร้างความเจริญก้าวหน้าสู่อนาคตตามวิสัยทัศน์พัฒนาประเทศไทย 4.0
ส่วนที่จังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลราไวย์ จับมือกับ “บ้านปู เน็กซ์” และ “แพลนเน็ต” เดินหน้าแผนพัฒนาภูเก็ต สมาร์ทซิตี้ เฟสที่ 1 ภายใต้โครงการ “ภูเก็ต ชุมชนน่าอยู่ สมาร์ท ปลอดภัย สุขใจทุกชีวิต” โดยนำโซลูชันฉลาดวิเคราะห์ (Smart Data Analytics) ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยรับวิถีชีวิตยุคใหม่ ครอบคลุมทั้งภัยจากโรคระบาดเชื้อโควิด-19 อาชญากรรม และสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นใจให้คนในชุมชน และนักท่องเที่ยว พร้อมเตรียมเดินหน้านำโซลูชันอื่นๆ เติมเต็มการพัฒนาภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ในฐานะเมืองต้นแบบให้สมบูรณ์ทุกมิติ
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า “เทศบาลนครภูเก็ตมุ่งผลักดันเป็นเมืองต้นแบบการจัดการความปลอดภัยทุกมิติ ซึ่งเป็นรากฐานของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ได้ และผลักดันการเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงได้ร่วมกับชุมชน ภาคเอกชน นำร่องติดตั้งระบบนี้บริเวณชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต ถนนถลาง - ซอยรมณีย์ ซึ่งเป็นถนนสายเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เมื่อติดตั้งระบบนี้แล้วจะช่วยในการตรวจสอบบุคคล จำกัดจำนวนคนเข้าออก ลดความแออัดในพื้นที่ สอดรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงตรวจจับภาพบุคคลที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ ในส่วนของเซนเซอร์ตรวจวัดสถานะจุดจอดรถ จะช่วยจัดระเบียบในการจอดรถ อำนวยความสะดวกด้านการสัญจรในพื้นที่นี้ เนื่องจากย่านนี้มักพบปัญหาการจอดรถในจุดห้ามจอดบ่อยครั้ง
ด้านนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า การติดตั้งสถานีเฝ้าระวังอัจฉริยะ และสถานีเฝ้าระวังสภาพอากาศบริเวณแหลมพรหมเทพ จะช่วยเติมเต็มการพัฒนาหาดราไวย์ และพื้นที่โดยรอบให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ระบบเหล่านี้จะช่วยให้เราสอดส่องนักท่องเที่ยวที่ไปยังจุดชมวิวให้มีจำนวนที่เหมาะสม และเฝ้าระวังอุบัติเหตุต่าง ๆ สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชุมชน และลดความกังวลเรื่องสถานการณ์โควิด-19
ส่วนทางด้านนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหา ชน) และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2564 นี้ บ้านปู เน็กซ์
ประเดิมด้วยการนำโซลูชันฉลาดใช้ ได้แก่ เรือท่องเที่ยวไฟฟ้า และสถานีอัดประจุ ไฟฟ้า ไปให้บริการในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่จังหวัดภูเก็ต ล่าสุดร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชน ครั้งนี้เป็นการเดินหน้าโครงการใหญ่ นำโซลูชันฉลาดวิเคราะห์ มาใช้วิเคราะห์ประเด็นปัญหาของทั้ง 2 พื้นที่ และออกแบบระบบความปลอดภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละพื้นที่ โดยให้บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET เป็นผู้ติดตั้งระบบฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการ Internet of Things - IoT
พร้อมกันนี้ยังนำสมาร์ท คอมมูนิตี้ แพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์ที่บ้านปู เน็กซ์พัฒนาขึ้นเป็นรายแรกของไทย มาใช้พัฒนาโครงการสมาร์ทซิตี้ดังกล่าว โดยแพลตฟอร์มนี้สามารถเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อื่นๆ และทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ และประมวลผลด้วย AI ส่งเข้าสู่ศูนย์ควบคุมส่วนกลาง (War Room) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถวางแผน และป้องกันสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ส่วนแอปฯ สมาร์ทคอมมูนิตี้ จะเป็นตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่ใช้ดูอุปกรณ์ต่างๆ ของระบบฯ เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และสั่งการได้ทุกที่ทุกเวลา
ด้านนายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ตคอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า ระบบความปลอดภัยเหล่านี้ สอดรับกับแนวทางการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ด้านการปกครอง (Smart Governance) สิ่งแวดล้อม (Smart Environment) เศรษฐกิจ (Smart Economy) ความเป็นอยู่ (Smart Living) การเดินทางและขนส่ง (Smart Mobility) เราจะเดินหน้านำโซลูชันพลังงานฉลาดอื่น ๆ มาเติมเต็มการพัฒนาภูเก็ตให้ก้าวสู่สมาร์ทซิตี้โดยสมบูรณ์ เพื่อเป็นต้นแบบสมาร์ทซิตี้ครบวงจร ซึ่งแพลตฟอร์มนี้สามารถประยุกต์ใช้กับเมืองอัจฉริยะอื่นๆ ในอนาตคต
หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,648 วันที่ 28 - 30 มกราคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มเบญจจินดาทุ่มตั้ง100เสาอัจฉริยะยึดเมือง”สมาร์ทซิตี้”
ดึง13 เมืองร่วมต้นแบบเมืองอัจฉริยะ