อิทธิฤทธิ์ “รธน.60” คดีนักการเมือง ไม่ต้องรอถึงที่สุด

+++ นับเป็นข่าวดีที่ “ศบค.” ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ชุดเล็ก ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติ “คลายล็อกดาวน์” พื้นที่ควบคุม หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 จากเดิมแผนที่ที่จัดเป็นสีต่าง ๆ มีผู้ติดเชื้อ 63 จังหวัด กระจายในภาคกลาง ตะวันออก แต่สถานการณ์ดีขึ้น ทำให้มีพื้นที่ “สีเขียว” มากขึ้น และ ศบค.ชุดเล็ก จึงได้เห็นตรงกัน จัดทำข้อเสนอพื้นที่ผ่อนคลายการใช้มาตรการควบคุม เพื่อเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 29 ม.ค.
 

+++ โดยการผ่อนคลายพื้นที่ควบคุมแบ่งเป็นพื้นที่ประกอบด้วย 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสูงสุด หรือ สีแดงเข้ม จาก 5 จังหวัดเหลือ 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร 2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ สีแดง จาก 23 จังหวัดเหลือ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และ ปทุมธานี 3.พื้นที่ควบคุม หรือ สีส้ม จาก 11 จังหวัดเพิ่มเป็น 20 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี
 

+++ 4.พื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือ สีเหลือง จาก 38 จังหวัดเหลือ 17 จังหวัด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา สงขลา ยะลา นราธิวาส และ 5.พื้นที่เฝ้าระวัง ซึ่งเดิมไม่มี เพิ่มเป็น 35 จังหวัด ภาคเหนือ 11 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา อุตรดิตถ์พิษณุโลก พิจิตร เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคายบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธรกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ สตูลิ ตรัง พัทลุง และปัตตานี

+++ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.บอกว่า ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สิ่งที่ “ปิด” เหมือนเดิม เช่น สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนามมวย สถานที่ออกกำลังกายในร่ม อาบอบนวด สปา โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา งานเลี้ยง และสถานที่ขนส่งสาธารณะต่างๆ เป็นต้น ส่วนที่ “เปิด” ได้บ้าง เช่น ตลาดนัด ร้านอาหารให้ซื้อไปทานที่อื่น และเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. ศูนย์รับดูแลผู้สูงอายุที่อยู่เป็นประจำ และโรงงานซึ่งต้องกำกับมาตรการการป้องกันโรคในโรงงานอย่างเข้มงวด โดย “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” ยังต้องปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนร้านอาหารนั่งรับประทานแบบเว้นระยะห่างได้ จำหน่ายแอลกอฮอล์ ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. “พื้นที่ควบคุมสูงสดและพื้นที่ควบคุม” การประชุมสัมมนาจำกัดผู้เข้าร่วมไม่เกิน 100 คน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และแสดงดนตรี ขณะที่ พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและเฝ้าระวัง จำกัดผู้เข้าร่วมไม่เกิน 300 คน แสดงดนตรีได้ แต่งดการเต้นรำ
 

+++ หลัง ศบค.มีมติดังกล่าวออกมา ก็มีความเคลื่อนไหวจาก “กระทรวงศึกษาธิการ” ที่ได้มีคำสั่งให้ “โรงเรียน” ต่างๆ เปิดการเรียนการสอนได้ในวันที่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ทั้งสถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบ แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ยกเว้นโรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาคร ยังคงปิดการเรียนการสอนเช่นเดิม
 

+++ ถือเป็นอิทธิฤทธิ์ของ “รัฐธรรมนูญใหม่” ฉบับปี 2560 ที่ทำให้ “เทพไท เสนพงศ์” ต้องกลายเป็นอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และดูเหมือนว่าถือเป็น “คนแรก” ที่ต้องสังเวยให้กับรัฐธรรมนูญ หลังจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค.64 ที่ผ่านมา “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพส.ส.ของ เทพไท สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(4) มาตรา 96(2) จากเหตุศาลนครศรีธรรมราช มีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 โดยให้ถือว่าสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.63 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. และให้ถือว่าตำแหน่งส.ส.ว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคือในวันที่ 27 ม.ค.

+++ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ยึดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ว่า ความเป็นสมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลง เมื่อมีลักษณะต้องห้ามไม่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 96 (1) (2) (4)  โดย (2) บัญญัติให้บุคคลที่ อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อศาลมีคำพิพากษา “เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง” ของผู้ใดแล้ว ผู้นั้นย่อมมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งทันที โดยไม่ต้องรอคำพิพากษาถึงที่สุด
 

+++ ศาลรัฐธรรมนูญ ยกเหตุผลว่า เนื่องจากส.ส.เป็นบุคคลผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องได้รับการกลั่นกรองคุณสมบัติเบื้องต้น และลักษณะต้องห้ามเพื่อเป็นหลักประกันว่า ผู้ทำหน้าที่ส.ส.จะต้องเป็นบุคคลที่มีความประพฤติและคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของประชาชน ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ สุจริต ปราศจากเหตุมัวหมอง ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ เกียรติและศักดิ์ศรีของสภาฯ การที่ส.ส.ผู้ใดทำผิดจนศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ผู้นั้นย่อมไม่อาจอยู่ในฐานะที่จะ “ไว้วางใจ” ในความสุจริตได้ และไม่สมควรให้เข้ามามีอำนาจในทางการเมือง …ส่วนข้อโต้แย้งของ เทพไท ที่ว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุดนั้น ศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้เป็นกรณีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101( 6) ประกอบมาตรามาตรา 98(4) และมาตรา 96(2) ซึ่งใช้คำว่า “อยู่ในระหว่างเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่” ไม่ได้ใช้คำว่าคำพิพากษาถึงที่สุด บทบัญญัติลายลักษณ์อักษรมีความชัดเจน ไม่อาจตีความเป็นอย่างอื่นได้ หมายความว่าสมาชิกภาพส.ส.ต้องสิ้นสุดลงเมื่อต้องคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยไม่ต้องรอคดีถึงที่สุดก่อน 
 

+++ นอกจากจะพ้นส.ส.แล้ว เทพไท ยังต้อง “เว้นวรรคการเมือง” เป็นเวลา 10 ปี ต่อนี้ไปก็คงเป็นเรื่องของการ กกต.ที่จะดำเนินการเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่าง เห็นว่า จะกำหนดให้หย่อนบัตรในวันที่ 7 มี.ค.นี้ และเปิดรับสมัคร  11-15 ก.พ. … สำหรับพื้นที่เลือกตั้งส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ประกอบด้วย อ.พระพรหม อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ชะอวด และ อ.จุฬาภรณ์ การเลือกตั้ง เมื่อ 24 มี.ค. 62 ที่ผ่านมา เทพไท เสนพงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 33,310 คะแนน ตามมาด้วย อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 28,742 คะแนน  สนั่น พิบูลย์ พรรคภูมิใจไทย  ได้ 15,490 คะแนน นรินทร์ เหลือสม พรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนน 11,754 คะแนน