นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงาน ธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอัตราเร่งเพื่อจับตลาดผู้บริโภคออนไลน์ ทั้งยังเป็นการขยายโอกาสโดยปราศจากข้อจำกัดเดิมๆด้วยเหตุนี้ ทำให้ตลาดแรงงานจำเป็นต้องพัฒนาและเปลี่ยนผ่านให้สอดรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสทางธุรกิจในอนาคตหลังยุคโควิด-19
จากข้อมูลการรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดีแทคเน็ตทำกิน พบว่าประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับ “วิกฤตทักษะดิจิทัล” ประชากรไทยมีความเหลื่อล้ำเชิงทักษะดิจิทัลอย่างมาก ทั้งด้านของวัยและพื้นที่ที่อาศัยอยู่ อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการขาดความรู้ ในการเข้าถึงตลาดออนไลน์ ซึ่งดีแทคเน็ตทำกิน พร้อมคิกออฟ ติดอาวุธอัพสกิลดิจิทัลผู้ประกอบการรายย่อย เผยข้อมูลการสมัครพบประเทศไทยเผชิญหน้า “วิกฤตทักษะดิจิทัล” ช่วงโควิด-19 ระบาดจากผลการเปิดรับสมัครโครงการดีแทคเน็ตทำกินไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พบว่า มีผู้ให้ความสนใจสมัครท่วมท้นกว่า 1,500 คนโดยส่วนใหญ่มีความต้องการเรียนรู้เพิ่มยอดขายทางออนไลน์ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดอย่างหนัก ยอดขายหดตัวลงไปมาก
ทั้งนี้ 25% ของผู้สมัครเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ ต้องการใช้ทักษะที่มีอยู่ในการหารายได้เพิ่มเติมจากการเกษียณอายุงานก่อนกำหนดหรือต้องการเริ่มอาชีพใหม่หลังจากได้รับผลกระทบเลิกจ้างกระทันหันจากพิษโควิด-19 ทักษะส่วนใหญ่ยังคงเป็นทักษะการผลิตสินค้าอาหาร เบเกอรี่ และขนบขบเคี้ยว ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่สินค้าทางการเกษตร สังฆภัณฑ์และพระเครื่อง เสื้อผ้าและเครื่องประดับ 33% ของผู้สมัครอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามด้วยภาคเหนือที่ 16.7% ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ มีอัตราส่วนใกล้เคียงกันที่ 12%
นอกจากนี้ กว่า 21% ของผู้เข้าสมัครมีอายุมากกว่า 50 ปี โดยมีความต้องการพัฒนาทักษะดิจิทัลและเห็นความสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ กว่า 43% ของผู้สมัคร มีการเปิดร้านค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจแต่ขาดความรู้เพื่อการจัดการอย่างเป็นระบบ ขณะที่ 7.6% มีจำนวนแฟนเพจและบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพแล้ว แต่ยังต้องการเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม มีผู้สมัครเพียง 35.3% เท่านั้น ที่มีผลิตภัณฑ์และสินค้าที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีแหล่งวัตถุดิบพื้นฐานในท้องถิ่น และมีศักยภาพเพื่อนำไปต่อยอดสู่การสร้างแบรนด์บนช่องทางออนไลน์เป็นที่น่าสนใจว่า ผู้สมัครราว 10% เป็นชนพื้นเมืองที่ต้องการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการสืบทอดจากภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ ตลอดจนสานต่อภูมิปัญญางานฝีมือของชนพื้นเมือง สร้างตัวตนและผูกความสัมพันธ์กับตลาดออนไลน์
“ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ขณะเดียวกัน ประชากรไทยทุกภาคส่วนล้วนมีความต้องการในการเพิ่มพูนทักษะดิจิทัล เพื่อขยายโอกาสและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชนพื้นเมืองและผู้ที่อาศัยตามชายขอบของกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเห็นได้ว่า การเพิ่มพูนทักษะดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม อันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนสืบไป” นายชารัด กล่าวเสริม
เดินหน้าติดอาวุธดิจิทัล
ทั้งนี้ คณะกรรมการของดีแทคได้ร่วมกันคัดเลือกข้อมูลจากใบสมัครโดยพิจารณาจากความน่าสนใจของประเภทสินค้าและบริการ ความตั้งใจจริงที่จะเรียนรู้และพัฒนาต่อยอดความรู้ และโอกาสในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพบนตลาดออนไลน์ ซึ่งคัดเลือดเหลือเพียง 150 ราย โดยตลอดเดือนมีนาคมนี้ ทีมโค้ชดีแทคเน็ตทำกิน จะเดินสายเพื่อจัดอบรมให้แก่ผู้ประกอบการในแต่ละภูมิภาค ในหมวดความรู้ดังต่อไปนี้
1. พื้นฐานการตลาดยุคดิจิทัล ครอบคลุมตั้งแต่การตลาดในปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภค กระบวนการตัดสินใจซื้อ และเครื่องมือการทำการตลาดต่างๆ
2. เรียนรู้แพลทฟอร์มสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ เพราะสินค้าดีแค่ไหน แต่นำเสนอผิดที่ ก็เหมือนเลือกรองเท้าผิดข้าง มาเรียนรู้แพลตฟอร์มการตลาดให้เข้ากับสินค้า ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Instagram, YouTube ฯลฯ เพิ่มยอดขายให้ปังกว่าเดิม
3. การถ่ายภาพเบื้องต้นสำหรับการตลาดออนไลน์ เคล็ดลับควรรู้ก่อนถ่ายภาพ เทคนิคการจัดวางองค์ประกอบเบื้องต้น เทคนิคการถ่ายภาพอาหารและสินค้าสำหรับการขายออนไลน์
4. การสร้างคอนเทนต์และจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ให้ผู้ประกอบการรายย่อยเพิ่มความน่าสนใจให้สินค้าด้วยกลยุทธ์การสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อการสื่อสาร โดยดีแทคได้ร่วมมือกับ “เพจอีจัน” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาคอนเทนต์ และบริหารเพจตลาดขายสินค้าชื่อดังอย่าง “เพจอีจันตลาดแตก” ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 11 ล้านราย
5. ปักหมุดธุรกิจติดดาว ครอบคลุมตั้งแต่การโปรโมทร้านด้วยการปักหมุดบน Google Maps และการใช้ Google Business เพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างการรับรู้ ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งของการสร้างตัวตนบนโลกดิจิทัล (Digital presence)
6. คำแนะนำด้านธุรกิจ การปรับปรุงคุณภาพและแพคเกจการนำเสนอสินค้าให้ยิ่งขายดียิ่งขึ้น รวมไปถึง ความรู้สำคัญเกี่ยวกับระบบภาษีการค้าขายอี-คอมเมิร์ซ การบริหารการเงินและวิธีการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต และขั้นตอนการขอมาตรฐานรับรองคุณภาพอาหารและบริการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :