ผลการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ร่วมกับ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แทน นายถาวร เสนเนียม ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม ไป
ปรากฏว่า ที่ประชุมได้มีมติเลือก นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฏร์ธานี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ
โดยพรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้วิธีลงคะแนนคัดเลือกคนเป็นรัฐมนตรี ปรากฏว่า
นายสินิตย์ เลิศไกร ได้ 33 คะแนน นำมาเป็นอันดับ 1
นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส พัทลุง ได้ 27 คะแนน
นายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้ 6 คะแนน
และ นายวิรัช ร่มเย็น อดีต.ส.ส.ระนอง ได้ 4 คะแนน
ขณะที่ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ได้ขอถอนตัวออกจากการคัดเลือกครั้งนี้
ทั้งนี้ คาดหมายว่า นายสินิตย์ จะต้องไปดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ที่เดิมเป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่มีการแลกสลับกับตำแหน่ง รมช.คมนาคม
สำหรับ นายสินิตย์ เลิศไกร เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2507 ปัจุบันอายุ 57 ปี
จบการศึกษา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคโนโลยีการเกษตร) วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี, รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บนถนนการเมือ นายสินิตย์ เริ่มด้วยการเป็น สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) สุราษฎร์ธานี ในปี 2538
และก้าวขึ้นสู่เวทีการเมืองระดับชาติ ด้วยการ เป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี 5 สมัย คือ ในการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2544, 2548, 2550, 2554 และ 2562
ว่ากันว่า ในการคัดเลือกส.ส.เข้าเป็น “รมต.” ของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้
กลุ่ม ส.ส.สุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 คน พร้อมกับผู้อาวุโสของพรรคอย่าง บัญญัติ บรรทัดฐาน ผนึกกำลังกันหนุน “ส.ส.ดำ” หรือ สินิตย์
เพราะมีการพูดถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอีกไม่ถึง 2 ปีนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการคัดเลือกคนไปเป็นรัฐมนตรี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างฐานเสียงของพรรค
เนื่องจากผลการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ประชาธิปัตย์ ชนะยกจังหวัดใหญ่ๆ แห่งเดียวคือ ที่สุราษฎร์ธานี ได้ ส.ส.มาครบ ทั้ง 6 ที่นั่ง ประกอบด้วย
เขต 1 ภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี
เขต 2 วิวรรธน์ นิลวัชรมณี บุตรชาย ประวิช นิลวัชรมณี อดีต ส.ส.หลายสมัย
เขต 3 วชิราภรณ์ กาญจนะ บุตรสาว ชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.หลายสมัย
เขต 4 สมชาติ ประดิษฐ์พร อดีตประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ธานี บุตรชาย ดำรง ประดิษฐ์พร (กำนันเซ่ง) อดีตกำนัน ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน
เขต 5 สินิตย์ เลิศไกร ส.ส. 5 สมัย
เขต 6 ธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส. 2 สมัย และบุตรชาย นิภา พริ้งศุลกะ อดีต ส.ส.หลายสมัย
หลัง “กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” แยกตัวออกไปตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย แม่ทัพเมืองหอยใหญ่ จึงตกมาอยู่ที่ บัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ปรึกษาพรรค และ โกเมศ ขวัญเมือง อดีต ส.ส.สุราษฏร์ฯ
สังเกตจาก ส.ส.เมืองหอยใหญ่ยุคนี้ ส่วนใหญ่เป็นทายาทอดีต ส.ส. และมี “ส.ส.สินิตย์” คนเดียวที่อาวุโสที่สุด
สำหรับคนแถวพระแสง เคียนซา จะเรียก “ส.ส.สินิตย์” ว่า ลูกดำ,พี่ดำ,อาดำ เพราะเขาเป็นลูกชายกำนัน สมพร เลิศไกร อดีตกำนัน ต.ไทรโสภา อ.พระแสง สุราษฏร์ธานี
เดิมที อ.พระแสง สมัยการเลือกตั้งแบ่งเขตเรียงเบอร์ ก็อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นพื้นที่ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ มาหลายสมัย
เมื่อปี 2544 ใช้ระบบเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียว “กำนันสุเทพ” จึงพา “สจ.ดำ” สินิตย์ เลิศไกร มาลงสมัครที่เขต 5 และ สินิตย์ ก็ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก ด้วยกระแส “นายหัวชวน” ยังมาแรง
ขณะที่ในการเลือกตั้งปี 2562 เขต 5 สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย อ.พระแสง, อ.ชัยบุรี, อ.พนม, อ.บ้านตาขุน และ อ.เคียนซา (เฉพาะตำบลบ้านเสด็จ) อาศัยกระแสพรรคประชาธิปัตย์ “ส.ส.ดำ” กวาดมากว่า 4 หมื่นคะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย เข้าสภาได้อีกสมัย
หันไปดู ผู้ชิงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ อีกคน คือ นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 5 สมัย คาดหมายว่าน่าจะมีโอกาสได้เป็น รมต.กับเข้าบ้างในเที่ยวนี้ แต่ผลการลงคะแนนคัดเลือกกลับได้มาเพียง 6 คะแนน
ทั้งนี้เดิม ส.ส.นครศรีธรรมราช มีอยู่ด้วยกัน 5 คน แต่ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 3 ล่าสุด นายพงศ์สินธุ์ น้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ พ่ายให้กับผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เสียส.ส.ไป 1 ที่นั่ง ทำให้ส.ส.เมืองคอน เหลือเพียง 4 คน คือ
เขต 4 นายประกอบ รัตนพันธ์
เขต 5 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ
เขต 6 นายชัยชนะ เดชเดโช
และเขต 8 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
การแย่งชิงเก้า รมต.จึงไปตกอยู่ที่ส.ส.จังหวัดสุราษฎ์ธานี
ส่งผลให้ สินิตย์ เลิศไกร ซึ่งมีอาวุโสสูงสุดในบรรดาส.ส. ได้ขึ้นแท่นเป็น “รมต.ป้าย” ของเมืองหอยใหญ่...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ด่วน! ปชป.เคาะ “สินิตย์ เลิศไกร”นั่ง รมช.พาณิชย์