คนละครึ่ง-เราชนะ มาแน่! "อนุชา"ชี้กระแสตอบรับดี เชื่อรัฐต่ออายุโครงการ

20 มี.ค. 2564 | 04:59 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2564 | 12:38 น.

"อนุชา"เชื่อรัฐบาลต่ออายุโครงการ"คนละครึ่ง-เราชนะ" หลังกระแสตอบรับดี เตรียมเสนอปรับเวลาใช้ให้เร็วขึ้น ก่อน 06.00 น.


วันที่ 20 มี.ค.64 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการคนละครึ่งและเราชนะ ที่ตลาดประตูเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ว่า จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าโดยรวมต่างชื่นชมโครงการฯนี้ มีเสียงตอบรับว่าทำให้การค้าขายดีขึ้น ประชาชนมาจับจ่ายซื้อของ เงินหมุนเวียนในระบบ  ส่งผลให้รายได้เพิ่มจากเดิมมากขึ้น

โดยพ่อค้าแม่ค้าได้เสนอให้เพิ่มระยะเวลาการใช้วงเงินในโครงการให้ไวขึ้น เพราะมีประชาชนมาใช้จ่ายตั้งแต่เช้า ทำให้เสียโอกาสไม่สามารถใช้วงเงินได้เพราะต้องรอเวลา 06.00 น.ซึ่งตนจะนำข้อคิดเห็นไปเสนอต่อไป  ส่วนปัญหาที่พบยังเป็นเรื่องระบบแอปพลิเคชันที่ขัดข้อง 

"ส่วนการต่ออายุโครงการฯนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีนโยบายให้สานต่อโครงการที่ประสบความสำเร็จเกิดประโยชน์ต่อประชาชน เชื่อว่ารัฐบาลจะสานโครงการต่อไปอย่างแน่นอน" นายอนุชา กล่าว.

 

คนละครึ่ง-เราชนะ มาแน่! \"อนุชา\"ชี้กระแสตอบรับดี เชื่อรัฐต่ออายุโครงการ

 

ล่าสุดผลดำเนินงานโครงการเราชนะ ถึง ณ วันที่ 18 มีนาคม 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า  มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 124,105 ล้านบาท จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งสิ้น 32.4 ล้านคน แยกเป็นดังนี้

1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 51,060 ล้านบาท 

2)ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 70,068 ล้านบาท

3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ  ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,977 ล้านบาท 

ทั้งนี้มูลค่าการใช้จ่าย เป็นการใช้จผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ 

โดยมูลค่าสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

- ผ่านร้านค้าทั่วไปและอืน ๆที่เข้าร่วมโครงการ 47,586 ล้านบาท

- ร้านธงฟ้าราคาประหยัดที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” 46,373 ล้านบาท 

- ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 22,781 ล้านบาท

- ร้านค้า OTOP  5,173 ล้านบาท

- ร้านค้าบริการ 2,122 ล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"คนละครึ่ง"เฟส 3 ขยายสิทธิมีลุ้น30 ล้านคน แง้มเงื่อนไขมีอะไรบ้าง เช็กที่นี่

เตือน!คนละครึ่ง รีบใช้เงินก่อนหมดเขต 31 มี.ค.ลุ้นต่อ"คนละครึ่ง เฟส3"

“เราชนะ-คนละครึ่ง” รัฐบาลเตือน พบทุจริตยกเลิกทันที