นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ตลท.ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลกรณีที่มีการซื้อขายบิ๊กล็อต จำนวน 762,718,000 หุ้น คิดเป็น 25.39% นั้น บริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นใหญ่ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 คนในกลุ่ม Orizon คือ 1. Orizon Limited และ 2. นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ได้เข้าทํารายการจําหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทที่ถืออยู่โดยรวมจํานวน 381,359,000 หุ้น คิดเป็น 12.69% ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) โดยได้ทําการซื้อขายผ่านตลท. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564
อย่างไรก็ตาม Orizon Limited จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 261,060,475 หุ้น คิดเป็น 8.69% และนายเพชรโอสถานุเคราะห์ จําหน่ายหุ้นสามัญ จํานวน 120,298,525 หุ้น คิดเป็น 4.00% นอกจากนี้ ได้รับแจ้งจากนายนิติ โอสถานุเคราะห์ ว่าได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพิ่มเติมเป็นจํานวน 215,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.16% ขณะที่ นักลงทุนรายอื่น ๆ ได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเป็นจํานวน 166,359,000 หุ้น คิดเป็น 5.53%
สำหรับกลุ่ม Orizon เป็นกลุ่มบุคคลที่กระทำการร่วมกัน หรือ Acting in Concert ประกอบด้วยผู้ถือหุ้น 7 คน ได้แก่ 1. Orizon Limited 2. รัตน์ โอสถานุเคราะห์ 3. เพชร โอสถานุเคราะห์ 4. ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์5. ภูรี โอสถานุเคราะห์ 6. คฑา โอสถานุเคราะห์ และ 7. นาฑี โอสถานุเคราะห์
ทั้งนี้ ภายหลังการทำรายการดังกล่าว ทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่ม Orizon ถือหุ้นลดลงเหลือ 452,336,700 หุ้น หรือ 15.06% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 833,695,700 หุ้น หรือ27.75% ส่วน นิติ โอสถานุเคราะห์ มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 715,030,000 หุ้น หรือ 23.80% จากเดิมถือหุ้น 500,030,000 หุ้น หรือ 16.65%
ขณะเดียวกัน OSP ได้ชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากบริษัทมีความสนใจที่จะอุทิศทรัพยากรของตนไปใช้ในโครงการอื่นๆ ซึ่งมุ่งหมายไปที่โครงการด้านศิลปะวัฒนธรรมและการศึกษาให้มากขึ้น เพื่อจะได้ช่วยวางรากฐานของวงการศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษาของประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า จึงมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการสนับสนุน ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท โครงสร้างการจัดการ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด บริษัทยังคงดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งและมั่นคงในประเทศไทยและในภูมิภาค สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป