วันนี้ (1 เม.ย.64) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เดินทางเข้าร่วมสักการะท้าวมหาพรหม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถือฤกษ์ 11.40 น. โดยมีคณะผู้บริหารข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมในพิธี
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การเข้ามาทำงานสัปดาห์แรกได้พบปะกับหัวหน้าส่วนราชการในหน่วยงานทั้งหมด พร้อมติดตามโครงการต่างๆ ให้สำเร็จตามกำหนด และขับเคลื่อนนโยบายและโครงการตามเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง หากเรื่องไหนติดขัดก็พยายามแก้ไขให้ลุล่วง
ทั้งนี้นโยบายที่จะขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หลังจากนี้ประกอบด้วย 5 เรื่อง คือ
1. การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึง แพร่หลาย เป็นธรรม ในทุกมิติ
2. การส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแพร่หลาย /ขจัดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ส่งเสริมการพัฒนา e-service ภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการภาครัฐได้โดยสะดวก รวดเร็วไม่จำกัดสถานที่ เช่น
- ร่วมกับสรรพากรในการออกมาตรการทางภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบธุรกิจ
- ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการอำนวยความสะดวกด้านใบอนุญาตทำงาน วีซ่า และการพักอาศัยสำหรับ digital talent (Visa and work permit for digital talent)
- การพัฒนาตลาดนวัตกรรมด้วยบัญชีนวัตกรรมดิจิทัล
- การส่งเสริมให้เกิดระบบ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนในการใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน (Digital Identification) เป็นต้น
3. จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก 5G การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และการสนับสนุนให้ประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ใน internet
4. การพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเข้าสู่โลกดิจิทัล(Trusted digital ecosystem) โดยเฉพาะเรื่อง การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
5. การปกป้องคุ้มครองประชาชนจากการใช้โซเชียลมีเดียและอินเตอร์เน็ตให้มีความปลอดภัย
“สำหรับโดยนโยบายเร่งด่วนที่ให้ความสำคัญคือเรื่องของ National Digital ID ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วย ที่จะเชื่อมโยงบัตรประชาชน และต่อไปอาจรวมถึงการยืนยันตัวตนในการจดทะเบียนบัญชีผู้ใช้สื่อโซเชียล ป้องกันปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ที่สร้างความเสียหายอยู่ในปัจจุบัน และการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในด้านเทคโนโลยี 5G ให้เกิดการใช้ประโยชน์เต็มรูปแบบ ขณะที่เรื่องของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ต้องปรับปรุงการทำงานและกระบวนการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากยังต้องรอคณะกรรมการ โดยจะเดินหน้าควบรวมตามกรอบนโยบายเดิม
ทั้งนี้นโยบายสำคัญต่างๆ ของกระทรวงในส่วนที่ดีอยู่แล้ว จะไม่มีการยกเลิก และส่วนที่มีปัญหา ก็ต้องมาร่วมกันหาแนวทางแก้ไข อีกทั้งจะให้ความสำคัญกับงานด้านความมั่นคง คดีต่างๆ เช่น การปิดเว็บ ปิดเพจ ต้องช่วยกันทำให้มาตรการทางกฎหมายมีผลบังคับใช้เข้มข้นยิ่งขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :