วันที่ 10 เมษายน 2564 ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โพสต์เฟซบุ๊ก Mana Nimitmongkol เรื่อง วิกฤติจริยธรรมนักการเมืองที่ผับทองหล่อ มีเนื้อหาระบุว่า
ต้นเหตุการระบาดใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนทั่วไป เคยเกิดมาแล้วจากสนามมวยของกองทัพ บ่อนการพนัน แรงงานผิดกฎหมาย และล่าสุดที่ผับย่านทองหล่อ ทุกกรณีล้วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายและมีพฤติกรรมคอร์รัปชันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
กรณีผับทองหล่อล่าสุดนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้ประชาชนอย่างมาก เนื่องจากข่าวอันอื้ออึงเซ็งแซ่ว่ามีรัฐมนตรีและนักธุรกิจคณะใหญ่โคจรร่วมกันไปติดโควิดในสถานที่นั้น โดยทุกคนล้วนละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของรัฐที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับประชาชน กลายเป็นว่า การระบาดใหญ่รอบนี้คนที่เป็นรัฐมนตรีนำทีมไปทำเรื่องไม่เหมาะสมเสียเอง เหตุการณ์นี้จึงสะท้อนปัญหา ‘จริยธรรม’ ของนักการเมืองที่เรื้อรัง
เพื่อป้องกันไม่ให้สังคมบอบช้ำซ้ำซาก สิ่งที่รัฐบาลควรทำโดยด่วน คือ
1. ใช้กฎหมายเอาผิดเจ้าของผับ ผู้บริหารของ กทม. ตำรวจและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่ละเลยในการตรวจตรา บังคับใช้กฎหมาย
2. ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเรียกสามัญสำนึกด้านจริยธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ร่วมกันฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรค นอกจากการด่าประณามของสังคมแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านจริยธรรม คือ ป.ป.ช. , ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ควรทำหน้าที่วินิจฉัยว่าพฤติกรรมของพวกเขาเป็นความผิดหรือไม่
3. ออกมาตรการควบคุมที่ชัดเจนและเข้มงวดสำหรับสถานประกอบการแต่ละประเภททั่วประเทศ เพื่อให้มีการตรวจตราเตรียมพร้อม ควบคุมกฎหมายกฎระเบียบทุกอย่างก่อนที่จะเปิดให้สถานประกอบการเหล่านี้กลับมาดำเนินการต่อไปได้
4. รัฐบาลควรจัดให้มีช่องทางสายด่วนให้ประชาชนร้องเรียนเมื่อพบเห็นผู้ฝ่าฝืนมาตรการโควิดนี้
5. ต้องเป็นกติกาว่า ทุกมาตรการที่รัฐแนะให้ประชาชนปฏิบัติ เจ้าหน้าของรัฐทุกคนต้องปฏิบัติเท่าเทียมกันไม่มีข้อยกเว้น เช่น การโหลดแอพพลิเคชั่นหมอชนะ การเปิดเผยไทม์ไลน์ต่อเจ้าหน้าที่และสาธารณชน
ดร.มานะ ระบุด้วยว่า การระบาดรุนแรงของโควิด-19 ที่ผ่านมาไม่ได้ให้บทเรียนแก่ทุกคนเลยกระนั้นหรือ โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐที่ควรตระหนักถึงความประมาทของคนไม่กี่กลุ่มที่จ้องแต่จะหาผลประโยชน์ หาความสุขแค่ชั่วคราว แต่ส่งผลให้การดำเนินชีวิตต้องเปลี่ยนไปของประชาชนทั้งประเทศ
“กี่ครั้งแล้วที่ต้องทนกับความประมาท ขาดสติ ไร้ความรับผิดชอบและการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ จะซ้ำเติมจนประเทศไทยบอบช้ำไม่ต้องฟื้นฟูประเทศกันอีกเลยหรือไม่ แล้วเมื่อไรที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์จะลืมตาอ้าปากทำมาหากินตามปกติได้เมื่อใด ใครจะเป็นคนตอบดี”