รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ โพสต์ข้อความผ่านเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ว่า มีหลายเรื่องที่ผมหวังว่าทาง ศบค. จะตระหนักว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนแล้ว เพราะทั่วโลกเค้าก็ทำไปทางนั้นแล้ว เช่น การเลิกคิดเอาชนะโรค แต่หาทางอยู่ร่วมกับมันอย่างปลอดภัย / การให้เอกชนร่วมจัดหา ร่วมฉีดวัคซีน / การกักตัวผู้ติดเชื้อแต่ไม่ป่วยหนักไว้ที่บ้าน home isolation / เลิกยึดติดกับเครื่องวัดอุณหภูมิ ที่ทั้งไม่แม่น และยังทำให้เข้าใจผิดว่าปลอดภัยด้วย เพราะผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งหนึ่งไม่ได้เป็นไข้
"อีกเรื่องที่อยากเสนอ คือ การอนุญาตให้ใช้ชุดตรวจ Rapid Test อย่างกว้างขวาง ได้แล้ว เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่เราจะทราบได้ว่ามีใครติดเชื้อแล้วบ้าง (อย่างลืมว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการ ซึ่งจะไม่รู้ตัวเลยถ้าไม่ใช้ชุดตรวจ) ในต่างประเทศนี้เค้าให้ใช้กันถ้วนหน้า ทั้งตามหน่วยงาน โรงเรียน บริษัท หรือแม้แต่ติดบ้านไว้ตรวจตัวเองก็มี ถ้ากลัวว่าชุดตรวจมันจะไม่แม่น ทางรัฐก็ช่วยคัดเลือก ช่วยควบคุม ยี่ห้อ-รุ่น ที่ได้มาตรฐานเป็นที่น่าพอใจให้กับประชาชนได้ชัด (จริงๆ ถึงมันไม่แม่นเท่าไป swab ทำ PCR ก็ยังกว่าเครื่องวัดอุณหภูมิมหาศาล) หรืออย่างที่ชอบอ้างว่า กลัวจะตีความผลผิดพลาด เลยให้แต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นคนใช้งาน ก็ให้ความรู้เพิ่มเติมสิครับ เขียนพูดอธิบายให้ชัดเจนว่าต้องดูอะไรยังไง ตรวจไม่ติดวันนี้ ก็ต้องระวังตัวว่าจะติดพรุ่งนี้ได้" รศ.ดร.เจษฎา กล่าว
ขณะที่ในต่างประเทศ ตอนนี้เค้าใช้กันทั่วไป จนแทบเหมือนเป็นชุดตรวจการตั้งครรภ์ ซึ่งที่มีความแม่นยำก็มีวางจำหน่ายกันแพร่หลาย ราคาไม่แพง หลายที่หลายบริษัท ให้ตรวจตัวเองทุกสัปดาห์เป็นการสกรีนก่อนเข้าบริษัทด้วยซ้ำ บางคอนเสิร์ต ยังให้ตรวจก่อน ถ้าผ่านจึงสามารถเข้าไปดูคอนเสิร์ตได้
ทั้งนี้ข้อดีที่สุดอย่างหนึ่งของการใช้ชุด Rapid Test กันโดยกว้างขวาง คือการรู้ "ความจริง" ว่า ตกลงมีคนติดเชื้อโรคมากน้อยแค่ไหนกันแน่ในประเทศ ซึ่งต่างประเทศเค้าไม่มากังวลเรื่อง "สถิติ" จำนวนผู้ติดเชื้อแล้วว่าจะมากน้อย แต่เน้นเรื่องทำยังไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเยอะๆ ต่างหาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :