จะเรียกว่า “แสงสว่าง” ปลาย “อุโมงค์” ก็ว่าได้
แม้จะเป็น “อุโมงค์” ของคนอื่น ส่วนของเราถึงจะมีชื่อเสียงก้องโลกในการระดมทีมช่วย “หมูป่า 13 ตัว” ออกจาก “ถ้ำขุนน้ำนางนอน” สำเร็จงดงาม แต่อุโมงค์ โควิด 19 เที่ยวนี้ของเรา คงต้องช่วยกันคลำหาทางออกอีกหลายตั้ง
TRAVEL BUBBLE คือ “แสงสว่าง” ปลายอุโมงค์ ของ AUSTRALIA และ NEW ZEALAND ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด 19 ต่ำ และจำนวนผู้เสียชีวิตน้อย
เครดิตนี้ต้องยกย่อง 2 “ผู้นำ” ประเทศ ที่นำพาประเทศมาถึง “แสงสว่าง”
นายกฯ SCOTT MORRISON แห่ง AUSTRALIA และนายกฯ JACINDA ARDERN แห่ง NEW ZEALAND
รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการควบคุมได้ฉับไวและดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนออสเตรเลียส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการต่างๆของภาครัฐอย่างเคร่งครัด
ที่ได้รับเสียงยกย่องชมเชยมากว่า “เด็ดขาดเข้มแข็ง” ทั้งที่ไม่ใช่ “ผู้ชายอกสามศอก” หรือ “เผด็จการทหาร” เป็น “ผู้นำสตรี” นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศนิวซีแลนด์ JACINDA ARDERN
ก่อนหน้าจะมา “บริหารวิกฤติ” พิชิตโควิด19 JACINDA ARDERN ทำชื่อมาแล้วจากการจัดการกับ “ปัญหา” หนักหนาสากรรจ์ตั้งแต่เหตุกราดยิงในมัสยิด วิกฤติภูเขาไฟระเบิด
เหตุการณ์ “สังหารหมู่ในมัสยิด” นายกฯหญิงJACINDA เดินทางไปมัสยิดด้วยการสวมผ้าคลุมศีรษะ “ฮิญาบ” และเข้าไปสวมกอด “ผู้สูญเสีย” เธอประกาศจะไม่เอ่ยชื่อ “ฆาตกร” ให้สาธารณชนทราบ
“ฉันขอวิงวอนทุกท่านให้พูดชื่อของ “ผู้จากไป” มากกว่าชื่อของ “ชาย” ที่เอาชีวิตพวกเขา เขาเป็น “ผู้ก่อการร้าย” เขาเป็น “อาชญากร” เขาเป็น “พวกคลั่ง” .....”
การบริหารวิกฤติครั้งนั้นเป็นที่กล่าวขานยกย่องทั้งโลก
JACINDA ARDERN เกิดในเมือง HAMILTON NEW ZEALAND จบปริญญาตรี COMMUNICATION STUDIES IN POLITICS AND PUBLIC RELATIONS จากมหาวิทยาลัย WAIKATO ในปีค.ศ. 2001
JACINDA เข้าสู่การเมืองพรรคแรงงานตั้งแต่อายุแค่ 17 ปี เคยทำงานในกลุ่ม POLICY UNIT ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ TONY BLAIR ในลอนดอน อายุ 37 เธอก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแรงงาน (ที่สาวที่สุดในประวัติศาสตร์)
การเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยแรก (2017-2020) ด้วยไม่ได้เป็นพรรคนำ หากสามารถรวมพรรคอื่นมาร่วม (NEW ZEALAND FIRST, GREEN)
ก่อนหมดเทอม JACINDA เจอเข้ากับวิกฤติโควิด19
14 มีนาคม 2020 เธอประกาศว่า ใครผู้ใดจะเข้าประเทศ NEW ZEALAND หลังเที่ยงคืนวันที่ 15 มีนาคม จะต้องกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน
เธอภูมิใจที่จะอวดว่ามาตรการนี้ประเทศ NEW ZEALAND จะได้ชื่อว่ามีมาตรการตรวจคนและกันคนเข้าเมืองที่กว้างขวางและเข้มงวดที่สุด
19 มีนาคม รัฐบาลประกาศว่า พรมแดนประเทศจะปิดไม่ให้คนที่ไม่ใช่ “พลเมือง” และ PERMANENT RESIDENTS เข้าอย่างเด็ดขาด และประกาศ LOCK DOWN ทั้งประเทศ ตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืนวันที่ 25 มีนาคม
สื่อในประเทศและสากลต่างยกย่อง JACINDA ว่าตัดสินใจเด็ดขาดและฉับไวต่อ “ปัญหา”
และไม่เสียแรงที่ร่ำเรียนมาทาง COMMUNICATION STUDIES นายกรัฐมนตรีหญิงผู้นี้ ใช้เวลาให้สัมภาษณ์สร้างความเข้าใจจัด PRESS CONFERENCE และบริหาร SOCIAL MEDIA จนถือเป็นแบบอย่างของ “ผู้นำ” ในการบริหาร CRISIS MANAGEMENT
ผลงานเป็นที่ประจักษ์เลือกตั้งสมัย 2 (จาก ค.ศ. 2020) JACINDA ARDERN “ผู้นำสตรี” พรรคแรงงานจึงชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แบบไม่ต้อง “โกง” ไม่ต้องอาศัย “วิธี” และ “มือสกปรก” ยกให้เป็น “ผู้นำ”
JACINDA ARDERN ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้นำ” ที่มีหัวก้าวหน้า บริหารงานภาครัฐได้อย่างเฉียบขาดรวดเร็ว และจุดเด่นของเธอที่มีความรักในเพื่อนมนุษย์ ความเห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์มาก่อน “ชื่อเสียง EGO ผู้นำ”
TRAVEL BUBBLE เปิดให้ประชาชนระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สามารถเดินทางไปหาสู่กันได้ โดยไม่ต้องทำการกักตัว
ชาวจิงโจ้ กว่า 1.5 ล้านคน เข้าเมืองต่างๆของ NEW ZEALAND ชาวกีวี่เอง 1.3 ล้านคนเดินทางผ่านเข้าเมืองออสซี่
เดิมเศรษฐกิจเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท การเปิด TRAVEL BUBBLE นอกจากให้ญาติมิตรได้พบกันง่ายแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ BACK TO NORMAL
ไม่ใช่ประกาศ NEW NORMAL กันปาวๆ แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น
ประเทศใกล้บ้านเรือนเคียงของเรา SINGAPORE ที่ได้ชื่อในการ “แสวงหาโอกาส” คงได้เข้าร่วมTRAVEL BUBBLE เร็ววันนี้ ด้วยฝีมือบริหาร COVID 19 PANDEMIC ที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,674 วันที่ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :