นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวถึงเหตุการณ์การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ล่าสุดและคำแนะนำสำหรับองค์กร ว่าการโจมตีการดำเนินงานด้านไอทีของบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ในประเทศสำคัญๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งล่าสุดนี้ น่าเสียดายที่เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ได้แจ้งเตือนไว้เมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมา
การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์แบบกำหนดเป้าหมาย หรือ “Ransomware 2.0” กำลังกลายเป็นกระแสในโลกไซเบอร์อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่กลุ่มเมซ (Maze) เป็นต้นมา กลุ่มแรนซัมแวร์อันตรายกำลังดำเนินการขโมยข้อมูลควบคู่ไปกับการแบล็กเมล์ โดยอาชญากรไซเบอร์จะใช้กลวิธีกดดันเหยื่อว่าจะเผยแพร่ข้อมูลที่ได้ขโมยมา ทำให้เหยื่อรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงจำเป็นต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อปกป้องชื่อเสียงอันมีค่าของตน
จากเหตุการณ์โจมตีหลายครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ องค์กรและเอ็นเทอร์ไพรซ์ควรมองแรนซัมแวร์ใหม่ มิใช่เป็นแค่เพียงมัลแวร์ประเภทหนึ่ง เพราะในความเป็นจริง บ่อยครั้งที่แรนซัมแวร์เป็นเพียงขั้นตอนสุดท้ายของการละเมิดเครือข่าย เมื่อถึงเวลาที่แรนซัมแวร์ถูกนำไปใช้งานจริง ผู้โจมตีก็ได้ทำการลาดตระเวนเครือข่าย ระบุข้อมูลที่เป็นความลับ และขโมยข้อมูลออกไปเรียบร้อยแล้ว องค์กรและเอ็นเทอร์ไพรซ์จึงจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (cybersecurity best practices) และใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อปกป้องระบบแบบองค์รวม การระบุการโจมตีได้ในระยะเริ่มต้นก่อนที่ผู้โจมตีจะบรรลุเป้าหมายสุดท้ายนั้น จะสามารถรักษาข้อมูลที่มีค่า ชื่อเสียงและเงินจำนวนมากได้
ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ ขอแนะนำมาตรการเพื่อปกป้องบริษัทจากแรนซัมแวร์ดังต่อไปนี้
Kaspersky Endpoint Security สามารถตรวจจับและบล็อกมัลแวร์อะแวดดอน (Avaddon) ด้วยเทคโนโลยี Behavior Detection ตลอดจนเครื่องมือสแกนและการตรวจจับบนคลาวด์ มัลแวร์นี้มีชื่อการตรวจจับที่แตกต่างกันซึ่งรวมถึง:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฮกข้อมูลกลุ่ม AXA ขายในตลาดมืด