วันนี้(23 พ.ค.64) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทย(พท.) เตรียมลงมติไม่รับหลักการ ต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ที่สภาเตรียมพิจารณา วันที่ 31 พ.ค. ถึงวันที่ 2 มิ.ย.นี้ เพราะจัดงบประมาณไม่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาโควิด-19 และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
โดยในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จะเป็นเวทีซักฟอกรัฐบาล ถึงความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด และปัญหาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาล บางพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย แก้ปัญหาของรัฐบาล ลงมติไม่รับหลักการของร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 ด้วย เพื่อให้เสียงไม่พอผ่านร่างกฎหมาย และจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มี 2 ทางเลือก คือ ลาออก หรือ ยุบสภา
"ขอให้พรรคร่วมรัฐบาล อย่าพายเรือให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอีกต่อไป โดยยกมือไม่รับหลักการของร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 65 หากเห็นว่าการอภิปรายของพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน ชี้ให้เห็นว่า การจัดสรรงบประมาณไม่ตรงกับปัญหาความจำเป็น และยังพบความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด และเศรษฐกิจ” นายยุทธพงศ์ ระบุ
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจทางบริหาร เพื่อออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินแก้ปัญหาโควิด-19 ทางด้านสาธารณสุข ฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชน เพราะการกู้เงินต้องเสียดอกเบี้ยและจะสร้างภาระให้ประชาชน
อีกทั้งในปี 2563 รัฐบาล ออกพ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อใช้ในกรณีเดียวกัน และแบ่งให้สาธารณสุขไปดำเนินการแก้ปัญหา จำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดนั้นพบว่าเบิกจ่ายงบประมาณส่วนดังกล่าวเพียง 20% เท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ การปรับลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อนำไปใช้แทนเงินที่จะกู้
กรณีงบของกระทรวงกลาโหมนั้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ครม. มีมติอนุมัติเงินกู้ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้กระทรวงกลาโหม ส่วนของกองทัพเรือ จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างทางขับเครื่องบินและศูนย์บำรุงอากาศยาน ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการหมกเม็ดงบกลาโหมไว้ในส่วนอื่น และไม่พบการปรับลดงบประมาณของหน่วยงานตามที่เคยแถลงไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งการอนุมัติผ่านเงินกู้นั้นรัฐบาลไม่สามารถตรวจสอบได้
นายยุทธพงศ์ ระบุว่า ตนได้รับข้อมูลว่าที่เขตคลองเตย พบการขายบัตรคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 มูลค่า 3,000 บาท เพราะชาวบ้านไม่มีเงินและกำลังอดตายจึงขายบัตรคิวที่ตนเองได้รับวัคซีนให้กับคนรวย
นอกจากนั้น ปัจจุบันยังพบความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด-19 ตามข่าวระบุว่ามีชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับแคมป์คนงานหลักสี่ ที่เป็นคลัสเตอร์โควิด รอรับการรักษา 5 วัน แต่ไม่มีรถรับไปรักษา แสดงให้เห็นว่า การใช้เงินกู้แล้วยังมีปัญหาและความล้มเหลว ทั้งนี้เงินกู้จะสร้างภาระให้ประเทศ และคนไทย
“ผมทราบว่าในเดือนมิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมขยายเพดานเงินกู้ให้สูงกว่า 60% แบบนี้จะทำให้เกิดภาวะล้มละลายทางเงินของประเทศ ทั้งนี้การออกเงินกู้นั้น ผมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้” นายยุทธพงศ์ ย้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
คำสั่งศบค.ทำสภาป่วน “ส.ส.พปชร.”ชงเลื่อนประชุม-ชะลอถก“พรบ.งบ65”