กรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ในขณะนี้สถานการการแพร่ระบาดทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น มี คลัสเตอร์ใน กทม. โดยทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ได้มีการ กระจายใน 6 กลุ่ม 20 เขต มีคลัสเตอร์ที่ระบาดมากกว่า 28 วัน 25 คลัสเตอร์ แบ่งเป็น แคมป์คนงาน 8 แห่ง ตลาด 6 แห่ง สถานประกอบการ 2 แห่ง ชุมชนและอื่นๆ 9 แห่ง ส่วนคลัสเตอร์ ที่ระบาด 14-27 วัน จำนวน 13 คัลสเตอร์ แบ่งเป็นแคมป์คนงาน 3 แห่ง ตลาด 3 แห่ง สถานประกอบการ 5 แห่ง ชุมชนและอื่นๆ 2 แห่ง แม้ว่าในขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้มีมาตรการจะ "ล็อกดาวน์ กรุงเทพฯ" แต่ถ้าแนวโน้มรุนแรงขึ้น จะต้องตัดสินใจจริง นักธุรกิจมีความคิดเห็นอย่างไร
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผมว่าไม่ควรทำเลย อย่าทำเลย นึกไม่ออกว่าจะ "ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ" แล้วจะทำอย่างไร ไม่ให้เข้าออกเลยหรือ ผมว่าไม่ใช่ "กรุงเทพฯ" ก็ไม่เป็นทุกเขต ควรจะดูแลจุดที่มีปัญหา กลัวว่าจะทำให้เกิดการตื่นตระหนก ที่สำคัญคนจะแห่กลับบ้าน เพราะ 7 วัน ต้องกินต้องใช้ ไม่ใช่มีเงิน แล้วคุณไม่ให้เค้าอยู่ ก็หนีกลับบ้าน จะกลายเป็นว่าเอาเชื้อโรคติดไปด้วยเพราะตอนนี้ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหา เมืองใหญ่ตอนนี้มีปัญหาก็อยากให้แก้ปัญหาตรงนี้ดีกว่า มีปัญหาที่กรุงเทพฯ ก็ควรจะแก้ปัญหาที่กรุงเทพฯ
“ยกตัวอย่างสงกรานต์ เดือนเมษายน ที่ผ่านมาปล่อยให้กลับบ้าน คนกรุงเทพฯ ก็นำเชื้อโรคไปติดต่างจังหวัด แล้วคนในจังหวัดจะมีบุคลากรเพียงพอหรือไม่ที่จะมารองรับตรงนี้ ทำได้ดีที่สุด ก็คือ ตอนนี้ต่างจังหวัดไม่มีปัญหา เพราะ อสม.ค่อนข้างเข้มแข็ง ใครมาถึงก็จะดูแลกันได้ แล้วการที่ล็อกดาวน์ไม่ให้เข้าออก ผมว่าจะทำให้ตื่นตระหนก กลับบ้านกัน ซื้อของตุนกัน ผมย้ำว่าไม่ควรทำ”
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” กล่าวเห็นด้วย หาก "ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ" ดี เพราะประท้วงกันอยู่ ถ้าล็อกดาวน์จะได้ไม่ต้องมีใครประท้วง เพราะแค่ 7 วัน ล็อกโรคได้จริงไหม ผลไม้ที่อยู่ในเมืองไทย ก็มีพวกฝรั่ง ชมพู่ เป็นต้น มีปริมาณไม่มาก ส่วนตลาดส่งออกไม่กระทบแน่นอน เพราะไม่ล็อกดาวน์เรื่องขนส่ง แต่เสนอควรจะล็อกประมาณ 15 วัน ไม่ควรจะล็อกแค่กรุงเทพฯ ไม่เช่นนั้นคนหนีกลับต่างจังหวัดกันหมด ควรจะ "ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ" ถึงจะยุติธรรม เพราะเกรงว่าคนจะพาโรคไปต่างจังหวัด
"ตอนนี้ต่างจังหวัดไม่เดือดร้อน อยู่จะเอาโรคไปให้คนต่างจังหวัด แล้วถ้าหากจังหวัดไม่ให้เข้า กลายเป็นว่าให้ประชาชนไปฆ่ากันเอง ทำไมบ้านกลับไม่ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหาใหม่ ดังนั้นควรจะล็อกทั้งประเทศ ยอมให้เศรษฐกิจเสียหาย 15 วัน อาจจะช่วยทำให้หยุดการแพร่กระจายเชื้อโรค แล้วมาไล่เก็บเชื้อ หากปล่อยอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะมีปัญหา ยอมเสียหายระยะสั้นๆ ดีกว่า "
นายสัญชัย กล่าวว่า แต่ถ้า 7 วัน คนอาจจะแพร่เชื้อหนักกว่า 10 เท่า เพราะคนก็เตรียมตัวออกต่างจังหวัด 1 คน อาจจะแพร่เชื้อ 2,000 คน เชื้อโรคจะกระจายเหมือนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นการล็อกดาวน์ 7 วันไม่เกิดประโยชน์ แต่ถ้าล็อกดาวน์ 7 วัน "ล็อกดาวน์ม็อบ" แน่นอน ไม่ใช่ "สกัดโควิด"
ด้าน นายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์” นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า หากจะมีการ "ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ" จริง รัฐบาลควรจะประกาศล่วงหน้าก่อน เพราะหากมีการประกาศล่วงหน้าก็จะมีการสต๊อกสินค้า มองว่าอาจจะเป็นการกระตุ้นยอดขายในระยะเวลาสั้นๆ แต่สินค้าจะขาดตลาดไหม ไม่มีทางขาดตลาดเด็ดขาด เพราะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมอยู่แล้ว ในแง่ของสินค้าประเภทข้าวไม่ต้องกังวลเลยมีเพียงพอ และไม่ต้องกังวลว่าราคาจะปรับขึ้นสูง เป็นราคาปกติ
หากจะประกาศล็อกดาวน์อย่างไรโดยหลักสากลประเทศ บางเซกชั่นจะมีดิลิเวอรี่ของได้ ทุกวันนี้เองการสั่งสินค้าทางออนไลน์ สามารถส่งของให้ผู้บริโภคถึงบ้านเลย ผมว่าไม่น่ากังวลประกาศล็อกดาวน์ ในส่วนเซกเมนต์ข้าวสารไม่มีการปรับราคาขึ้นไม่ว่าจะเป็นการล็อกดาวน์ครั้งที่แล้ว อย่างไรผู้ประกอบการข้าวถุงเองเราอยู่เคียงข้างกับประชาชนอยู่แล้ว สังเกตว่าการปรับราคาขึ้นลง ข้าวถุงจะปรับราคาช้าที่สุด เนื่องจากระบบข้าวที่อยู่ในห้างโมเดิร์นเทรด การปรับราคาขึ้นลงแต่ละครั้งไม่ใช่ได้ง่าย ต้องมีการแจ้งผู้ค้าทราบล่วงหน้าก่อน อย่างน้อย 10-15 วัน เพราะฉะนั้นสต๊อกที่อยู่ในมือห้างโมเดิร์นเทรดเป็นราคาปัจจุบัน ดังนั้นหากรัฐบาลจะประกาศล็อกดาวน์กรุงเทพฯ จริง ไม่มีทางที่สินค้าจะขยับราคาขึ้น เป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องกังวล
ส่วนครั้งที่แล้ว ที่มีการล็อกดาวน์ยอดขายเพิ่มขึ้น ประชาชนก็มีการซื้อของเพิ่ม แต่เพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลานั้น พอผ่านช่วงระยะเวลานั้นไปยอดขายตกลง เนื่องจากคนซื้อสต๊อกไว้แล้ว จึงส่งผลในอนาคตยอดขายอาจจะตกลง ไม่ว่ารัฐบาลจะประกาศล็อกดาวน์อย่างไรก็ตามให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าสินค้าไม่มีขาดจากท้องตลาดแน่นอน และในส่วนตัวเห็นด้วยที่รัฐบาลจะประกาศ "ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ"
"ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่า 7 วันน้อยเกินไป เพราะมาตรการในการกักตัวแต่ละครั้งที่ออกมาก็คืออย่างน้อย 14 วัน ไม่ว่าจะติดเชื้อโควิด หรือไม่ติดเชื้อโควิดก็ตาม แล้วถ้าเรากักตัว ล็อกดาวน์ 14 วัน จะทำให้ทุกคนไม่ไปไหนเลย จะเห็นชัดเจนว่าตัวเลขจะปรับลดลงได้แค่ไหน ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ามีคลัสเตอร์เกิดขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพวกคนงานก่อสร้าง เราไม่รู้ว่าพวกกลุ่มคนเหล่านี้พักอาศัยอยู่ที่ไหนกันบ้าง ดังนั้นต้องให้หยุดกิจกรรมทุกอย่าง ต้องยอมรัดเข็มขัดกันนิดหนี่ง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง